“อสมท” รุกนิวมีเดียจับกระแสเกาหลีต่อยอดรายได้ในไทย จับมือ Intellicode Thai ผุด 3 โปรเจกต์ในปีนี้ คาดเพิ่มรายได้อีก 65 ล้านบาท ส่งรายได้สื่อใหม่ปีนี้แตะ 400 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเสาะหาพันธมิตรทั้งไทยและเทศสะสมคอนเทนต์รองรับแผนลงทุนทีวีดิจิตอล 4 ช่อง และสาธารณะ 1 ช่อง
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามแผนการดำเนินงานของ อสมท ปีนี้จะรุกในส่วนของสื่อใหม่ที่เป็นนอนบรอดแคสมากขึ้น ล่าสุดจับมือกับทางบริษัท Intellicode Thai จำกัด จากประเทศเกาหลี เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจสื่อใหม่ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ, การพัฒนาเว็บไซต์ Soompi, การพัฒนาแอปพลิเคชันออนโมบายล์โฟน และสมาร์ททีวี, การพัฒนาเทคโนโลยีจาก แอนะล็อกเป็นดิจิตอล และการจัดหาเนื้อหา คอนเทนต์ด้านบันเทิงจากเกาหลีมาสู่ไทย
เบื้องต้นที่จะเห็นในปีนี้วางไว้ 3 โครงการ คือ 1. นำแผนงานด้านเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถจำเสียง ภาพ และโฆษณาจากภาพยนตร์ได้ มาสู่การผสมผสานให้เข้ากับกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ทาง อสมท มากขึ้น 2. เปิดเว็บไซต์ Soompi.com จากเดิมที่เป็นเว็บไซต์แวดวงบันเทิงเกาหลีแบบภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดมาเป็นแบบภาษาไทย เสนอข่าวสารในวงการเกาหลีตอบโจทย์คนไทยที่ชื่นชอบความเป็นเกาหลี และ 3. พัฒนาแอปพลิเคชันบนโมบายล์โฟนร่วมกัน คาดว่าจะเริ่มเห็นตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ เชื่อว่าจากความร่วมมือครั้งนี้จะมีรายได้กว่า 65 ล้านบาทในสิ้นปี ส่งผลให้กลุ่มรายได้จากสื่อใหม่ในปีนี้น่าจะสูงถึง 400 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 280-300 ล้านบาทได้
นายเอนกกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อใหม่นั้น หลังจากนี้จะมุ่งหาพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อต้องการสร้างคอนเทนต์ให้มีมากเพียงพอต่อการเข้าร่วมประมูลดิจิตอลทีวีที่ทาง อสมท สนใจ รวม 4 ช่อง คือ ช่องเกี่ยวกับข่าว, เด็ก/การศึกษา, บันเทิง และช่องเอชดี นอกจากนี้ยังสนใจช่องสาธารณะอีก 1 ช่องด้วย
โดยในช่วงกลางปีนี้จะมีการเซ็นสัญญากับเอ็มทีวีของทางสิงคโปร์ และบริษัทด้านคอนเทนต์จากจีน และญี่ปุ่นบางส่วน รวมถึงพันธมิตรผู้ผลิตรายการในไทย โดยคอนเทนต์ที่สนใจเป็นพิเศษคือคอนเทนต์เกี่ยวกับเด็ก บันเทิง สารคดีเพื่อการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น ขณะที่ปัจจุบัน อสมท ได้มีการพัฒนาคอนเทนต์เองเช่นกัน เห็นได้จากผังรายการของทางช่อง 9 ที่นำเสนอในปัจจุบันผลิตเองกว่า 51% เป็นไปตามที่ทาง กสทช.กำหนด จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 46%