“ไทย-บังกลาเทศ” ฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 40 ปี ตั้งเป้าการค้า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทย และบังกลาเทศมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีต่อกันมายาวนาน เป็นแหล่งส่งออกที่สำคัญของไทยทั้งอาหารสำเร็จรูป ปูนซีเมนต์ เนื่องจากบังกลาเทศเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากถึง 160 ล้านคน โดยที่ผ่านมาไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด
ในการเดินทางเยือนบังกลาเทศอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี สองฝ่ายได้มีการหารือกันเพื่อตั้งเป้าขยายการค้าเพิ่มเป็นสองเท่า หรือประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 บังกลาเทศยังมีความต้องการลงทุนด้านการก่อสร้าง ธุรกิจพลังงาน รวมทั้งมีประชากรบางส่วนนิยมเดินทางมายังไทยเพื่อท่องเที่ยว และใช้บริการทางการแพทย์ในไทย
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีการค้าของบังกลาเทศ รวมทั้งสภาธุรกิจบังกลาเทศ โดยได้มีการจัดกิจกรรม business matching ระหว่างภาคเอกชน และตกลงให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้แทนการค้าจากภาครัฐและเอกชนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นให้สองฝ่ายใช้ประโยชน์จากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-บังกลาเทศ ให้มีการหารือเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันเพื่อให้มูลค่าการค้าขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะเร่งให้มีการประชุมภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556
บังกลาเทศถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในเอเชียใต้ รองจากอินเดีย โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเฉลี่ยปีละ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ และปี 2554 เป็นครั้งแรกที่สองฝ่ายมีมูลค่าการค้าขยายตัวถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“บังกลาเทศผลิตสินค้าเกษตร และประมงได้ดี แต่ยังขาดความรู้ทางเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร จึงเป็นโอกาสดีที่นักธุรกิจไทยจะเข้าไปลงทุน อีกทั้งบังกลาเทศได้สิทธิพิเศษด้านภาษีจากอินเดียด้วย จึงถือเป็นโอกาสที่นักธุรกิจไทยจะใช้ประโยชน์ได้หากเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศ” นายบุญทรงกล่าว
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทย และบังกลาเทศมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีต่อกันมายาวนาน เป็นแหล่งส่งออกที่สำคัญของไทยทั้งอาหารสำเร็จรูป ปูนซีเมนต์ เนื่องจากบังกลาเทศเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากถึง 160 ล้านคน โดยที่ผ่านมาไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด
ในการเดินทางเยือนบังกลาเทศอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี สองฝ่ายได้มีการหารือกันเพื่อตั้งเป้าขยายการค้าเพิ่มเป็นสองเท่า หรือประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 บังกลาเทศยังมีความต้องการลงทุนด้านการก่อสร้าง ธุรกิจพลังงาน รวมทั้งมีประชากรบางส่วนนิยมเดินทางมายังไทยเพื่อท่องเที่ยว และใช้บริการทางการแพทย์ในไทย
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีการค้าของบังกลาเทศ รวมทั้งสภาธุรกิจบังกลาเทศ โดยได้มีการจัดกิจกรรม business matching ระหว่างภาคเอกชน และตกลงให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้แทนการค้าจากภาครัฐและเอกชนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นให้สองฝ่ายใช้ประโยชน์จากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-บังกลาเทศ ให้มีการหารือเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันเพื่อให้มูลค่าการค้าขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะเร่งให้มีการประชุมภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556
บังกลาเทศถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในเอเชียใต้ รองจากอินเดีย โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเฉลี่ยปีละ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ และปี 2554 เป็นครั้งแรกที่สองฝ่ายมีมูลค่าการค้าขยายตัวถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“บังกลาเทศผลิตสินค้าเกษตร และประมงได้ดี แต่ยังขาดความรู้ทางเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร จึงเป็นโอกาสดีที่นักธุรกิจไทยจะเข้าไปลงทุน อีกทั้งบังกลาเทศได้สิทธิพิเศษด้านภาษีจากอินเดียด้วย จึงถือเป็นโอกาสที่นักธุรกิจไทยจะใช้ประโยชน์ได้หากเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศ” นายบุญทรงกล่าว