“เต้น”สรุปขายข้าว ปชป. พิรุธเพียบ ผิดมติ ครม. ขายต่ำกว่าราคาตลาด 6 เดือน ขายไป 4 ล้านตัน เหลือสต๊อกแค่ล้านกว่าตัน รัฐได้เงินรวม 5.3 หมื่นล้าน เจ๊งเป็นหมื่นล้าน ตั้งข้อสงสัยเงินหายไปไหน เข้ากระเป๋าใคร
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้จัดทำสรุปผลการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล โดยพบว่าในช่วงเดือนก.ค.-ธ.ค.2553 ระยะเวลาแค่ 6 เดือน มีการจำหน่ายข้าวในสต๊อกให้กับเอกชนรวมทั้งสิ้น 4.1 ล้านตัน รัฐได้เงินกลับมามูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท โดยคงเหลือข้าวในสต๊อกที่ยังไม่จำหน่าย 1 ล้านกว่าตัน และยังพบว่าการจำหน่ายข้าวในสต๊อกดังกล่าว เป็นการขายที่ขัดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก รวมๆ แล้ว รัฐน่าจะขาดทุนจากการจำหน่ายน่าจะเกิน 1 หมื่นล้านบาท
“เงินที่หายไป หายไปโดยบริสุทธิ์ใจ หรือหายไปเพราะอะไร และหายไปไหน”นายณัฐวุฒิตั้งคำถาม
ส่วนข้อโต้แย้งที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการขายข้าวสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ออกระบุว่าการขายข้าวในราคาต่ำกว่าท้องตลาดขณะนั้น เนื่องจากข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งตนเห็นว่าไม่ใช่สาระ เพราะสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าข้าวที่ขายขณะนั้นมีคุณภาพเป็นอย่างไร เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานการตรวจสอบคุณภาพข้าวเก็บไว้อยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ยืนยันได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้จัดทำสรุปผลการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล โดยพบว่าในช่วงเดือนก.ค.-ธ.ค.2553 ระยะเวลาแค่ 6 เดือน มีการจำหน่ายข้าวในสต๊อกให้กับเอกชนรวมทั้งสิ้น 4.1 ล้านตัน รัฐได้เงินกลับมามูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท โดยคงเหลือข้าวในสต๊อกที่ยังไม่จำหน่าย 1 ล้านกว่าตัน และยังพบว่าการจำหน่ายข้าวในสต๊อกดังกล่าว เป็นการขายที่ขัดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก รวมๆ แล้ว รัฐน่าจะขาดทุนจากการจำหน่ายน่าจะเกิน 1 หมื่นล้านบาท
“เงินที่หายไป หายไปโดยบริสุทธิ์ใจ หรือหายไปเพราะอะไร และหายไปไหน”นายณัฐวุฒิตั้งคำถาม
ส่วนข้อโต้แย้งที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการขายข้าวสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ออกระบุว่าการขายข้าวในราคาต่ำกว่าท้องตลาดขณะนั้น เนื่องจากข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งตนเห็นว่าไม่ใช่สาระ เพราะสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าข้าวที่ขายขณะนั้นมีคุณภาพเป็นอย่างไร เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานการตรวจสอบคุณภาพข้าวเก็บไว้อยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ยืนยันได้
