“พาณิชย์” ออกประกาศกำหนดราคารับซื้อผลปาล์มดิบที่กิโลกรัมละ 4-4.35 บาทตามเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ส่วนน้ำมันปาล์มดิบให้ซื้อกิโลกรัมละ 25 บาท พร้อมส่ง อคส.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 5 หมื่นตันดึงผลผลิตส่วนเกิน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงสกัด โรงกลั่น โรงงานไบโอดีเซล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำว่า กรมฯ เตรียมออกประกาศกำหนดให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 4 บาทที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% และ กก.ละ 4.35 บาทที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 18.5% และกำหนดให้โรงกลั่น โรงงานไบโอดีเซลรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ กก.ละ 25 บาท ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการแก้ไขปัญหาผลผลิตส่วนเกิน คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัดในราคา กก.ละ 25 บาท จำนวน 5 หมื่นตัน เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดที่ปัจจุบันมีส่วนเกินอยู่ประมาณ 5-8 หมื่นตัน โดยจะใช้เงินหมุนเวียนจากกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จะอนุมัติต่อไป คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 1,250 ล้านบาท
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงสกัด โรงกลั่น โรงงานไบโอดีเซล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำว่า กรมฯ เตรียมออกประกาศกำหนดให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 4 บาทที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% และ กก.ละ 4.35 บาทที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 18.5% และกำหนดให้โรงกลั่น โรงงานไบโอดีเซลรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ กก.ละ 25 บาท ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการแก้ไขปัญหาผลผลิตส่วนเกิน คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัดในราคา กก.ละ 25 บาท จำนวน 5 หมื่นตัน เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดที่ปัจจุบันมีส่วนเกินอยู่ประมาณ 5-8 หมื่นตัน โดยจะใช้เงินหมุนเวียนจากกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จะอนุมัติต่อไป คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 1,250 ล้านบาท