xs
xsm
sm
md
lg

“แมพฯ” เพิ่มแบรนด์รับเออีซี ห้างเขี่ยทิ้งสินค้าจีนเลียนแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิสานาถ บุญแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าเด็กและแฟชั่น บริษัท แมพ แอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด กับ เฟอร์บี้โฉมใหม่
“แมพแอคทีฟ” บุกหนักปีหน้าทั้ง 3 กลุ่ม “ของเล่น-เสื้อผ้าเด็ก-แฟชั่น” เตรียมพร้อมรับเออีซี เพิ่มทั้งแรนด์ใหม่และไลน์สินค้าใหม่ในแบรนด์เดิม ชี้ตลาดของเล่นเสริมทักษะมาแรง สินค้าจีนทยอยหลุดจากห้าง

นางสาวนิสานาถ บุญแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าเด็กและแฟชั่น บริษัท แมพ แอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดในทุกกลุ่มสินค้าที่ทำตลาดอยู่คือ 1. กลุ่มของเล่น สัดส่วนรายได้ 40% 2. กลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้าเด็ก สัดส่วน 30% 3. กลุ่มแฟชั่น สัดส่วน 30% โดยจะมีการเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่มไลน์สินค้าในแบรนด์เดิมเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ด้วย

โดยในส่วนของกลุ่มของเล่นนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ ถือลิขสิทธิ์ทำตลาดในไทยของบริษัทใหญ่ๆ หลายราย เช่น ฮาสโบร รวมมากกว่า 20 แบรนด์ เช่น ครีโอ ลีพฟรอก เบบี้อะไลฟ์ มายลิตเติ้ลโพนี เบนเทน เพลย์ไทม์ เป็นต้น ซึ่งปีหน้าจะเพิ่มไลน์สินค้าที่เกี่ยวกับการศึกษาและเทคโนโลยีมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมพ่อแม่ยุคใหม่ใส่ใจและยอมใช้จ่ายกับของเล่นที่เพิ่มทักษะให้ลูกมากขึ้น

โดยบริษัทฯ มีของเล่น 3 กลุ่ม คือ 1. เด็กชาย สัดส่วนรายได้ 55% 2. เด็กหญิง สัดส่วน 30% และ 3. ของเล่นการศึกษาเสริมทักษะ สัดส่วน 15% ซึ่งปีหน้าจะเน้นในกลุ่มนี้มากขึ้นเพื่อหวังขยับสัดส่วนรายได้ขึ้นมาเป็นประมาณ 30% ตามฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย ล่าสุดคือการเปิดตัวตุ๊กตาหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยง เฟอร์บี้ ที่มีเทคโนโลยีเล่นผ่านแอปพลิเคชันจากไอโฟน ไอแพดได้ด้วย ราคา 3,995 บาท จำหน่ายล็อตแรกหมดแล้ว 3,000 กว่าตัว นำเข้ามาจากอเมริกา คาดว่าตัวนี้ซึ่งเป็นไฮไลต์ช่วงปลายปีจะมียอดขายรวม 10 ล้านบาท และปีหน้าจะเพิ่มตัวเล็กและซีรีสใหม่อีก

ส่วนกลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้าเด็ก เดิมมีแบรนด์ที่ทำตลาดคือ ออชคอส คาร์ตอร์ บาร์บี้ เป็นต้น ปีนี้ก็เพิ่งได้แบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด เช่น เสื้อผ้าและรองเท้าเด็กแบรนด์อาดิดาส รองเท้าสไตรด์ไรท์ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มแฟชั่นนั้น ในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 4-5 แบรนด์ ตามสิทธิ์ที่บริษัทแม่ที่อินโดนีเซียได้มาทำตลาดในไทยด้วย จากปัจจุบันมี 2 แบรนด์แล้ว คือ นิวลุค กับเน็กซ์

นางสาวนิสานาถกล่าวต่อว่า สำหรับตลาดรวมของเล่นปีนี้มีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท เฉพาะช่องทางห้างสรรพสินค้ามีการเติบโตมากกว่า 30% ขณะที่รายได้กลุ่มของเล่นของบริษัทฯ มีการเติบโตมากกว่า 35% ซึ่งสาเหตุที่กลุ่มของเล่นของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโตมากเนื่องจากว่ามีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ คอลเลกชันใหม่เข้าตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปี รวมทั้งสินค้าของเล่นบางตัวก็จะมีการทำตลาดควบคู่ไปกับหนังที่เข้าฉายในโรงหนังหรือฟรีทีวีด้วย จึงเป็นแรงผลักดันให้รายได้รวมเติบโตขึ้นอย่างมาก

รวมทั้งห้างค้าปลีกส่วนใหญ่เริ่มที่จะไม่นำสินค้าที่ลอกเลียนแบบหรือสินค้าของเล่นที่นำเข้าจากจีนมาจำหน่าย จึงทำให้โอกาสในตลาดสำหรับสินค้าที่มีแบรนด์และมีคุณภาพมีมากขึ้นตามไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น