“สลิลโฮเทลกรุ๊ป” เกาะแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงทุนโรงแรมสไตล์บูติกต่อเนื่องปีละ 1-2 แห่ง มั่นใจย่านสุขุมวิทยังมีตลาดรองรับอีกไม่โอเวอร์ซัปพลาย ชี้ 3 โรงแรมย่านสุขุมวิทผลตอบรับดี
นางสลิลลา อติการบดี กรรมการบริหาร บริษัท สลิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรมในเครือสลิลโฮเต็ลกรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมโรงแรมในกรุงเทพฯ ปัจจุบันนี้มีเปิดให้บริการแล้วมากกว่า 600 แห่ง โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เกิดขึ้นใหม่มากกว่า 100 แห่ง ซึ่งเป็นการเติบโตที่เร็วมาก จึงทำให้ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเช่นกันเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อตารางวา และคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นอีกต่อเนื่อง โดยปี 2556 คาดว่าจะเพิ่ม 20%
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจโรงแรมในย่านสุขุมวิทก็ยังสามารถที่จะขยายตัวได้อีก โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กในรูปแบบบัดเจ็ต และบูติก เพราะความหลากหลายของห้องพักและราคาไม่สูงเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 บาทต่อคืน เมื่อเทียบกับโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ราคาห้องพักค่อนข้างสูงเฉลี่ยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000-4,000 บาทและค่อนข้างอิ่มตัว
แนวโน้มนี้เห็นได้จากโรงแรมในเครือสลิลโอเต็ลกรุ๊ปของบริษัท ซึ่งขณะนี้เปิดบริการอยู่ 3 แห่ง คือ โรงแรมสลิล สุขุมวิทซอย 8 มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 85% โรงแรมสลิล ทองหล่อ 1 มีอัตราการเข้าพักกว่า 90% และโรงแรมสลิล สุขุมวิทซอย 11 ที่เพิ่งเปิดให้บริการ 1 เดือนมีอัตราการเข้าพัก 90% ทำให้บริษัทมั่นใจและมีแผนที่จะเปิดโรงแรมในเครือสลิลโฮเต็ลแบบบูติกโฮเต็ลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1-2 แห่งต่อปี
บริษัทยังคงเน้นขยายโรงแรมในทำเลแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสตั้งแต่สถานีอ่อนนุชไปจนถึงสถานีราชเทวี เพราะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางและพักอาศัย ส่วนรูปแบบการพัฒนาจะเป็นการเข้าไปซื้ออาคารเก่าที่สามารถปรับปรุงเป็นโรงแรมได้ไม่ต่ำกว่า 100 ห้อง แต่ละแห่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2560 จะมีโรงแรมในเครือสลิลโอเต็ลกรุ๊ปเปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง
ส่วนโรงแรมอีก 2 แบรนด์ คือ สวัสดี และวรบุรี บริษัทก็มีแผนลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 1-2 แห่งต่อปี โดยในส่วนของแบรนด์สวัสดีจะเป็นโรงแรมรูปแบบบัดเจ็ต ขณะที่แบรนด์วรบุรีจะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จากแผนดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมเปิดโรงแรมใหม่ละปีไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นางสลิลลา อติการบดี กรรมการบริหาร บริษัท สลิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรมในเครือสลิลโฮเต็ลกรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมโรงแรมในกรุงเทพฯ ปัจจุบันนี้มีเปิดให้บริการแล้วมากกว่า 600 แห่ง โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เกิดขึ้นใหม่มากกว่า 100 แห่ง ซึ่งเป็นการเติบโตที่เร็วมาก จึงทำให้ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเช่นกันเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อตารางวา และคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นอีกต่อเนื่อง โดยปี 2556 คาดว่าจะเพิ่ม 20%
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจโรงแรมในย่านสุขุมวิทก็ยังสามารถที่จะขยายตัวได้อีก โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กในรูปแบบบัดเจ็ต และบูติก เพราะความหลากหลายของห้องพักและราคาไม่สูงเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 บาทต่อคืน เมื่อเทียบกับโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ราคาห้องพักค่อนข้างสูงเฉลี่ยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000-4,000 บาทและค่อนข้างอิ่มตัว
แนวโน้มนี้เห็นได้จากโรงแรมในเครือสลิลโอเต็ลกรุ๊ปของบริษัท ซึ่งขณะนี้เปิดบริการอยู่ 3 แห่ง คือ โรงแรมสลิล สุขุมวิทซอย 8 มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 85% โรงแรมสลิล ทองหล่อ 1 มีอัตราการเข้าพักกว่า 90% และโรงแรมสลิล สุขุมวิทซอย 11 ที่เพิ่งเปิดให้บริการ 1 เดือนมีอัตราการเข้าพัก 90% ทำให้บริษัทมั่นใจและมีแผนที่จะเปิดโรงแรมในเครือสลิลโฮเต็ลแบบบูติกโฮเต็ลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1-2 แห่งต่อปี
บริษัทยังคงเน้นขยายโรงแรมในทำเลแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสตั้งแต่สถานีอ่อนนุชไปจนถึงสถานีราชเทวี เพราะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางและพักอาศัย ส่วนรูปแบบการพัฒนาจะเป็นการเข้าไปซื้ออาคารเก่าที่สามารถปรับปรุงเป็นโรงแรมได้ไม่ต่ำกว่า 100 ห้อง แต่ละแห่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2560 จะมีโรงแรมในเครือสลิลโอเต็ลกรุ๊ปเปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง
ส่วนโรงแรมอีก 2 แบรนด์ คือ สวัสดี และวรบุรี บริษัทก็มีแผนลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 1-2 แห่งต่อปี โดยในส่วนของแบรนด์สวัสดีจะเป็นโรงแรมรูปแบบบัดเจ็ต ขณะที่แบรนด์วรบุรีจะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จากแผนดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมเปิดโรงแรมใหม่ละปีไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
