“กฟผ.” แจงกรณีข่าว กฟผ.ปักเสาไฟกลางบ้านจัดสรร ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับ น.ส.อมลยา เจ้าของที่ดินให้เข้าใจแล้ว และยืนยันที่จะรื้อถอนเสาทันทีหลังการก่อสร้างขยายระบบส่งแล้วเสร็จ ต.ค. 56
นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่า น.ส.อมลยา เจนตวนิชย์ เจ้าของที่ดินซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเลี่ยงเมือง ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบที่ดินของตนเองและระบุว่า กฟผ.ไม่ยอมย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงออกจากพื้นที่ ทั้งที่กำหนดจะต้องย้ายให้เสร็จภายในปี 2554 นั้น ล่าสุด กฟผ.ได้ไปทำความเข้าใจกับ น.ส.อมลยาให้รับทราบข้อเท็จจริงจนเป็นที่พอใจแล้ว
ทั้งนี้ ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 จังหวัดลำปางมีแผนการพัฒนาการก่อสร้างถนนเพื่อเลี่ยงเมือง โดยถนนดังกล่าวตัดผ่านสายส่งไฟฟ้า 115 เควี แม่เมาะ 3-ลำปาง 1 (เสาคอนกรีต) ทำให้ต้องย้ายเสาและตั้งเสาใหม่ (เสาโครงเหล็ก) จำนวน 2 ต้น ซึ่งจำนวน 1 ต้นตั้งอยู่ในพื้นที่ของ น.ส.อมลยา โดยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินได้เจรจาและจ่ายเงินค่าทดแทนให้เป็นจำนวน 67,546 บาท แต่ น.ส.อมลยาไม่รับเงินดังกล่าว และได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ขอค่าทดแทนที่ดินเป็นจำนวนเงิน 2,500,000 บาท ซึ่งศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้อง และให้จ่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว
ปัจจุบัน กฟผ.มีแผนการขยายสายส่งไฟฟ้า และดำเนินการก่อสร้างขยายระบบส่ง 230 เควี แม่เมาะ 3-แม่เมาะ 4-ลำปาง 1 ลำพูน 1-ลำพูน 2 ซึ่งเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 และมีแผนแล้วเสร็จในวันที่ 5 กันยายน 2555 (ตามที่ระบุไว้ในสัญญา) แต่เนื่องจากมีการแก้ไขแนวสายส่งที่อยู่ใกล้สนามบินให้อยู่นอกเขตรัศมีของการบินมีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ทำให้แผนการก่อสร้างต้องล่าช้าออกไป โดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2556 ซึ่งแนวของการขยายเขตพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้แนวเขตเดินสายส่งไม่ทับแนวสายส่งเดิม จึงทำให้แนวสายส่งไม่พาดผ่านและไม่อยู่ในเขตบริเวณพื้นที่ของ น.ส.อมลยาแล้ว และหากการก่อสร้างขยายระบบส่งแล้วเสร็จ กฟผ.จะทำการย้ายสายส่งและเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ของ น.ส.อมลยา