“ดีน่า” ทุ่มงบกว่า 120 ล้านบาทอัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดส่งท้ายปี ดึงพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสุดฮอต “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เจาะกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานยุคใหม่ มั่นใจรักษาส่วนแบ่งตลาดดี น่าจะอยู่อันดับ 2 ได้
นางสาวสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคต่างหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ขยายไปยังกลุ่มต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้มูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มในประเทศไทยปี 2555 (รวมทุกผลิตภัณฑ์ทั้งนมวัว นมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว นมผสมมอลต์ที่เป็นยูเอชทีและพาสเจอไรซ์) มีมูลค่า 49,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีที่ผ่านมา
โดยตลาดนมถั่วเหลืองถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากนมวัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นมถั่วเหลืองธรรมดา (Regular Soy Milk : contribution 70%) และนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า (Value Added Soy Milk : contribution 30%) ซึ่งในปี 2555 ตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชทีคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท เติบโต 12% (เทียบกับปีที่ผ่านมา) และในปี 2556 อาจจะมีมูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท เติบโต 13.4% ทั้งนี้ “ดีน่า” ถือเป็นผู้นำในตลาดนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า ซึ่งประกอบด้วย ดีน่างาดำ และดีน่ากาบา สูตรผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 23%
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเต็มรูปแบบ เน้นสร้างการรับรู้ในวงกว้างสู่ผู้บริโภคผ่านหนังโฆษณาและสื่อต่างๆ ทั้ง Above the Line และ Below the Line ผ่านกิจกรรมในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ และกิจกรรมโรดโชว์เจาะกลุ่มสาวทำงานยุคใหม่ เพื่อสร้างการทดลองชิมสินค้าและทำให้สาวๆ ใส่ใจดูแลความอ่อนเยาว์กันมากขึ้น โดยปีนี้ได้ใช้งบการตลาดทั้งสิ้น 120 ล้านบาทสำหรับหนังโฆษณาดีน่า งาดำ ที่ออกอากาศอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการขายในร้านค้าเพื่อกระตุ้นการบริโภคของผู้รักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ถึงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานอีเวนต์ “เช็คความอ่อนเยาว์กับดีน่า งาดำ” โดยมีดาราสาวชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาร่วมงาน
ผลตอบรับจากผู้บริโภคหลังเปิดตัวหนังโฆษณาที่มีดาราสาวชมพู่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้ดีน่า งาดำครองส่วนแบ่งตลาดในเดือน ก.ย. 2555 เพิ่มขึ้น 2% จาก 12.5% เป็น 14.5% ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งตลาดของดีน่ารวมขึ้นมาเป็นอันดับ 2 (1. แลคตาซอย 55% 2. ดีน่า 23% 3. ไวตามิลค์ 21% ข้อมูลจาก Nielsen เดือน ก.ย. 2555) ดังนั้นสิ้นปีนี้ทางบริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 และเป็นฐานที่ดีสำหรับการขยายธุรกิจในปีหน้า
นางสาวสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคต่างหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ขยายไปยังกลุ่มต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้มูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มในประเทศไทยปี 2555 (รวมทุกผลิตภัณฑ์ทั้งนมวัว นมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว นมผสมมอลต์ที่เป็นยูเอชทีและพาสเจอไรซ์) มีมูลค่า 49,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีที่ผ่านมา
โดยตลาดนมถั่วเหลืองถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากนมวัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นมถั่วเหลืองธรรมดา (Regular Soy Milk : contribution 70%) และนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า (Value Added Soy Milk : contribution 30%) ซึ่งในปี 2555 ตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชทีคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท เติบโต 12% (เทียบกับปีที่ผ่านมา) และในปี 2556 อาจจะมีมูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท เติบโต 13.4% ทั้งนี้ “ดีน่า” ถือเป็นผู้นำในตลาดนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า ซึ่งประกอบด้วย ดีน่างาดำ และดีน่ากาบา สูตรผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 23%
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเต็มรูปแบบ เน้นสร้างการรับรู้ในวงกว้างสู่ผู้บริโภคผ่านหนังโฆษณาและสื่อต่างๆ ทั้ง Above the Line และ Below the Line ผ่านกิจกรรมในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ และกิจกรรมโรดโชว์เจาะกลุ่มสาวทำงานยุคใหม่ เพื่อสร้างการทดลองชิมสินค้าและทำให้สาวๆ ใส่ใจดูแลความอ่อนเยาว์กันมากขึ้น โดยปีนี้ได้ใช้งบการตลาดทั้งสิ้น 120 ล้านบาทสำหรับหนังโฆษณาดีน่า งาดำ ที่ออกอากาศอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการขายในร้านค้าเพื่อกระตุ้นการบริโภคของผู้รักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ถึงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานอีเวนต์ “เช็คความอ่อนเยาว์กับดีน่า งาดำ” โดยมีดาราสาวชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาร่วมงาน
ผลตอบรับจากผู้บริโภคหลังเปิดตัวหนังโฆษณาที่มีดาราสาวชมพู่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้ดีน่า งาดำครองส่วนแบ่งตลาดในเดือน ก.ย. 2555 เพิ่มขึ้น 2% จาก 12.5% เป็น 14.5% ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งตลาดของดีน่ารวมขึ้นมาเป็นอันดับ 2 (1. แลคตาซอย 55% 2. ดีน่า 23% 3. ไวตามิลค์ 21% ข้อมูลจาก Nielsen เดือน ก.ย. 2555) ดังนั้นสิ้นปีนี้ทางบริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 และเป็นฐานที่ดีสำหรับการขยายธุรกิจในปีหน้า