โฆษกข้าวพาณิชย์สวนสหรัฐฯ ยันจำนำข้าวไม่ขัด WTO ชี้สหรัฐฯ ก็อุดหนุนสินค้าเกษตรภายในเป็นเงินมหาศาล ส่วนการระบายข้าวก็ขายในราคาตลาด ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ได้ประโยชน์กันหมด
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าสหรัฐฯ มีข้อกังวลถึงการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของไทยอาจผิดเงื่อนไของค์การการค้าโลก (WTO) และเตรียมขอหารือกับไทยว่า ไทยไม่ได้ทำผิดระเบียบ WTO เพราะได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเกษตรภายใต้ WTO ที่ได้กำหนดข้อผูกพันให้เปิดเสรีสินค้าเกษตรและอนุญาตให้รัฐบาลประเทศต่างๆ สามารถให้ความช่วยเหลือสำหรับสินค้าเกษตรภายในประเทศของตนได้
ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ WTO ไม่ได้ห้ามประเทศสมาชิกต่างๆ ให้การอุดหนุนต่อสินค้าเกษตรภายในประเทศ เนื่องจากเห็นว่าภาคเกษตรของทุกประเทศเป็นภาคที่อ่อนแอ จึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่ง WTO ได้กำหนดกฎเกณฑ์กำกับดูแลการอุดหนุนสินค้าเกษตร เพื่อให้การค้าสินค้าเกษตรโลกมีความยุติธรรมต่อประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ซื้อ ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือหรือการอุดหนุนจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ก็ได้ให้การอุดหนุนสินค้าเกษตรภายในประเทศด้วยเงินจำนวนมหาศาล
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวของไทยถือเป็นโครงการที่พิจารณาถึงความสอดคล้องในหลายมิติ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรควบคู่กันไป โดยรัฐบาลต้องการให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่เหมาะสม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนให้มีการรักษาอาชีพเกษตรกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารของโลกในระยะยาว ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดการบิดเบือนด้านการส่งออกข้าวในตลาดโลก และไม่ได้ขัดหลักการของ WTO เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรภายใต้โครงการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบด้านราคาต่อประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นแต่อย่างใด
ขณะที่การระบายสต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยเป็นการระบายตามกลไกตลาด และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงไม่ได้จำหน่ายต่ำกว่าราคาตลาด ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกของไทยปัจจุบันสูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามและอินเดียกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะเดียวกัน หากเทียบกับราคาข้าวไทยกับข้าวสหรัฐฯ ในระดับเดียวกันจะพบว่าในอดีตมีราคาต่างกันมาก แต่ปัจจุบันมีระดับราคาที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น ดังนั้นประเทศผู้ส่งออกข้าวสำคัญทั้งสหรัฐฯ เวียดนาม และอินเดีย จึงไม่ได้รับผลกระทบหรือสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดข้าวโลก แต่ในทางกลับกันสามารถขายข้าวได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยังเป็นการช่วยยกระดับราคาข้าวให้แก่เกษตรกรและยกระดับราคาข้าวไทยโดยรวม ซึ่งส่งผลให้ราคาส่งออกข้าวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน การที่ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น เกษตรกรของประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวของประเทศนั้นๆ ก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าสหรัฐฯ มีข้อกังวลถึงการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของไทยอาจผิดเงื่อนไของค์การการค้าโลก (WTO) และเตรียมขอหารือกับไทยว่า ไทยไม่ได้ทำผิดระเบียบ WTO เพราะได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเกษตรภายใต้ WTO ที่ได้กำหนดข้อผูกพันให้เปิดเสรีสินค้าเกษตรและอนุญาตให้รัฐบาลประเทศต่างๆ สามารถให้ความช่วยเหลือสำหรับสินค้าเกษตรภายในประเทศของตนได้
ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ WTO ไม่ได้ห้ามประเทศสมาชิกต่างๆ ให้การอุดหนุนต่อสินค้าเกษตรภายในประเทศ เนื่องจากเห็นว่าภาคเกษตรของทุกประเทศเป็นภาคที่อ่อนแอ จึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่ง WTO ได้กำหนดกฎเกณฑ์กำกับดูแลการอุดหนุนสินค้าเกษตร เพื่อให้การค้าสินค้าเกษตรโลกมีความยุติธรรมต่อประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ซื้อ ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือหรือการอุดหนุนจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ก็ได้ให้การอุดหนุนสินค้าเกษตรภายในประเทศด้วยเงินจำนวนมหาศาล
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวของไทยถือเป็นโครงการที่พิจารณาถึงความสอดคล้องในหลายมิติ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรควบคู่กันไป โดยรัฐบาลต้องการให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่เหมาะสม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนให้มีการรักษาอาชีพเกษตรกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารของโลกในระยะยาว ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดการบิดเบือนด้านการส่งออกข้าวในตลาดโลก และไม่ได้ขัดหลักการของ WTO เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรภายใต้โครงการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบด้านราคาต่อประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นแต่อย่างใด
ขณะที่การระบายสต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยเป็นการระบายตามกลไกตลาด และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงไม่ได้จำหน่ายต่ำกว่าราคาตลาด ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกของไทยปัจจุบันสูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามและอินเดียกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะเดียวกัน หากเทียบกับราคาข้าวไทยกับข้าวสหรัฐฯ ในระดับเดียวกันจะพบว่าในอดีตมีราคาต่างกันมาก แต่ปัจจุบันมีระดับราคาที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น ดังนั้นประเทศผู้ส่งออกข้าวสำคัญทั้งสหรัฐฯ เวียดนาม และอินเดีย จึงไม่ได้รับผลกระทบหรือสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดข้าวโลก แต่ในทางกลับกันสามารถขายข้าวได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยังเป็นการช่วยยกระดับราคาข้าวให้แก่เกษตรกรและยกระดับราคาข้าวไทยโดยรวม ซึ่งส่งผลให้ราคาส่งออกข้าวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน การที่ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น เกษตรกรของประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวของประเทศนั้นๆ ก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน
