นานมีบุ๊คส์เดินหน้าลุยธุรกิจหนังสือแบบครอบคลุมทุกโซลูชันผ่าน 4 แนวทางหลัก เสริมทัพหนังสือใหม่ 300-400 ปกต่อปี ผุดศูนย์การเรียนรู้ และโรงเรียนนอกระบบ พร้อมขยายรีเทล-ชอปอินชอป อีก 10 แห่งปีหน้า ปีนี้ได้หนังสือดีจาก เจ.เค. โรว์ลิ่งช่วยดันเป้าสู่ 800 ล้านบาท
นางสาวคิม จงสถิตย์วัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้นานมีบุ๊คส์เข้าสู่ปีที่ 20 จึงได้มีการปรับทิศทางการดำเนินงานโดยจะวางตัวเองเป็นผู้ให้บริการในธุรกิจหนังสือแบบโทเทิลโซลูชัน ให้บริการแบบบูรณาการ สู่เป้าหมายที่ต้องการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่าน 4 แนวทางหลัก คือ 1. ส่งเสริมให้คิดเป็น ทำเป็นแบบวิทยาศาสตร์ 2. เรียนรู้ไม่สิ้นสุดด้วยการอ่านอย่างต่อเนื่อง 3. ปลูกฝังตั้งแต่ปฐมวัย และ 4. พร้อมเข้าสู่ AEC ด้วยทักษะภาษาและทักษะชีวิต
โดยการดำเนินงานหลังจากนี้จะเน้นกลุ่มนอนบุ๊กมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เปิดตัวสถาบันนานมีบุ๊คส์ อินโนเวชั่น ให้บริการรับจัดการให้การเรียนรู้และอบรมให้แก่โรงเรียนใน 4 เรื่อง คือ 1. คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 2. ส่งเสริมการอ่าน 3. การพัฒนาศักยภาพเด็กประถมวัย และ 4. ทักษะภาษา โดยปัจจุบันมีโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 85 แห่งเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว และในปีหน้าคาดว่าจะมีเพิ่มอีก 150 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ในปี 2556 บริษัทฯ จะขยายกลุ่มนอนบุ๊กจากสถาบันการเรียนรู้สู่การให้บริการโรงเรียนนอกระบบด้วย มุ่งเน้นในเรื่องของการกวดวิชา และพัฒนาทักษะชีวิต ซึ่งหลักสูตรจะแตกต่างจากโรงเรียนสอนพิเศษทั่วไป โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาและวางนโยบายรวมถึงงบลงทุน ส่วนของร้านนานมีบุ๊คส์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 สาขา ปีหน้าจะเพิ่มจำนวนทั้งในรูปแบบรีเทล และชอปอินชอปในเชนร้านหนังสืออื่นๆ อีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขาทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อตัวหนังสือต่อเนื่อง โดยแต่ละปีจะมีหนังสือปกใหม่ออกมาราว 300-400 ปก ทั้ง 3 ระดับ คือ เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 0-8 ขวบ, เยาวชน 8-18 ปี และผู้ใหญ่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งแต่ละช่วงอายุนั้นจะมีไฮไลต์ของหนังสือที่จะออกมาให้ได้อ่านกันอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มเด็กเล็กในปีหน้าจะมีหนังสือชุดอัจฉริยะปั้นได้ กลุ่มเยาวชนจะมีหนังสือนวนิยายเกี่ยวกับเชอร์ล็อก โฮล์มส์ออกมา และสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่จะมีผลงานของนักเขียนชื่อดังอย่าง เจ.เค. โรว์ลิ่ง ในชื่อ The Casual Vacancy ฉบับภาษาไทยออกมาให้ได้อ่านกัน ซึ่งขณะนี้มียอดจองแล้วกว่า 2 แสนเล่ม และในปีหน้าคาดว่าจะขายเพิ่มได้อีก 1 แสนเล่ม รวมแล้วถึงสิ้นปี 56 คาดว่าจะขายได้ 3 แสนเล่ม
นางสาวคิมกล่าวต่อว่า ปัจจุบันรายได้ของบริษัทกว่า 96% มาจากกลุ่มบุ๊ก และมีเพียง 4% มาจากนอนบุ๊ก โดยสิ้นปีนี้มองว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 800 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 20% ส่วนสำคัญของการเติบโตมาจากยอดจองผลงานของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ขณะที่ปีหน้าจากการที่เน้นในส่วนนอนบุ๊กมากขึ้นนั้น คาดว่าสัดส่วนรายได้จากบุ๊กจะอยู่ที่ 90% และนอนบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็น 10% ซึ่งน่าจะผลักดันรายได้ให้บริษัทเติบโตขึ้นได้ถึง 30% หรือคาดว่าจะมีรายได้รวมถึง 1,000 ล้านบาทได้