โอลิมปัสมั่นใจตลาดกล้องไทย ทุ่ม 150 ล้านบาททำการตลาดเต็มสูบ หลังตัดสินใจลุยไทยเอง คว้าบัลลังก์มิร์เรอร์เลสด้วยแชร์ 50% ในสิ้นปีนี้ พร้อมดันรายได้รวมแตะ 1,000 ล้านบาทแน่
นายชินโช อิเคดะ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ปีนี้ทางบริษัทตัดสินใจเข้ามาทำตลาดเองในประเทศไทย จากเดิมให้ทางดิสทริบิวเตอร์รายหนึ่งเป็นผู้ทำตลาดให้ พบว่าเรามีข้อมูลด้านการตลาดที่จะช่วยในการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแง่การลงทุนและการทำตลาดเพื่อการแข่งขัน
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงพร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาทในการดำเนินธุรกิจ มั่นใจว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีรายได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ 1,000 ล้านบาทได้ โดยงบ 150 ล้านบาทนั้นจะถูกนำไปใช้ทั้งการทำตลาด เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงการเปิดชอปแบรนด์โอลิมปัสที่เพิ่งเปิดให้บริการแห่งแรกที่เวิลด์ คาเมร่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว และอีก 1 สาขาภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโอลิมปัสมีสินค้าครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม คือ ดีเอสแอลอาร์ 1 รุ่น จึงทำให้ยังไม่มีส่วนแบ่งในกลุ่มนี้, คอมแพกต์เน้นเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ สิ้นปีน่าจะมีแชร์ 10% และมิร์เรอร์เลส ปัจจุบันเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่ง 35% ในแง่จำนวน ส่วนแวลูมีแชร์ 40% และเป็นกลุ่มหลักที่สร้างรายได้ให้โอลิมปัส ส่งผลให้บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดมิร์เรอร์เลสเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าตลาดนี้จะมีอัตราการเติบโตได้อีกมาก หรือสามารถมีส่วนแบ่งถึง 50% ในตลาดรวมได้ภายใน 3-4 ปีเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น
ล่าสุดเปิดตัวกล้องนวัตกรรมใหม่ในระบบ Micro Four Thirds จำนวน 3 รุ่น คือ Olympus PEN Lite E-Pl5, Olympus PEN mini E-PM2 และ Olympus XZ-2 มั่นใจว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายกลุ่มมิร์เรอร์เลสอยู่ที่ 20,000 ตัว คิดเป็น 50% ของตลาดกล้องมิร์เรอร์เลสมูลค่า 40,000 ตัว ส่วนในปีหน้าเชื่อว่าตลาดจะเพิ่มเป็น 60,000 ตัว และ 85,000 ตัวในปีถัดไป
นายชินโช อิเคดะ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ปีนี้ทางบริษัทตัดสินใจเข้ามาทำตลาดเองในประเทศไทย จากเดิมให้ทางดิสทริบิวเตอร์รายหนึ่งเป็นผู้ทำตลาดให้ พบว่าเรามีข้อมูลด้านการตลาดที่จะช่วยในการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแง่การลงทุนและการทำตลาดเพื่อการแข่งขัน
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงพร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาทในการดำเนินธุรกิจ มั่นใจว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีรายได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ 1,000 ล้านบาทได้ โดยงบ 150 ล้านบาทนั้นจะถูกนำไปใช้ทั้งการทำตลาด เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงการเปิดชอปแบรนด์โอลิมปัสที่เพิ่งเปิดให้บริการแห่งแรกที่เวิลด์ คาเมร่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว และอีก 1 สาขาภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโอลิมปัสมีสินค้าครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม คือ ดีเอสแอลอาร์ 1 รุ่น จึงทำให้ยังไม่มีส่วนแบ่งในกลุ่มนี้, คอมแพกต์เน้นเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ สิ้นปีน่าจะมีแชร์ 10% และมิร์เรอร์เลส ปัจจุบันเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่ง 35% ในแง่จำนวน ส่วนแวลูมีแชร์ 40% และเป็นกลุ่มหลักที่สร้างรายได้ให้โอลิมปัส ส่งผลให้บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดมิร์เรอร์เลสเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าตลาดนี้จะมีอัตราการเติบโตได้อีกมาก หรือสามารถมีส่วนแบ่งถึง 50% ในตลาดรวมได้ภายใน 3-4 ปีเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น
ล่าสุดเปิดตัวกล้องนวัตกรรมใหม่ในระบบ Micro Four Thirds จำนวน 3 รุ่น คือ Olympus PEN Lite E-Pl5, Olympus PEN mini E-PM2 และ Olympus XZ-2 มั่นใจว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายกลุ่มมิร์เรอร์เลสอยู่ที่ 20,000 ตัว คิดเป็น 50% ของตลาดกล้องมิร์เรอร์เลสมูลค่า 40,000 ตัว ส่วนในปีหน้าเชื่อว่าตลาดจะเพิ่มเป็น 60,000 ตัว และ 85,000 ตัวในปีถัดไป