เอเชียเฟื่อง ลักชัวรีแบรนด์แห่ปักธงหลังยุโรปซบ เศรษฐีเอเชียพุ่งทั้งในจีน ฮ่องกง และอินเดีย สยามพารากอนทุ่ม 40 ล้านบาท จัดงาน ราคาเทียบเท่าฮ่องกง ลั่นเตรียมงบตลาดอีก 100 ล้านบาทลุย 5 เดือนหลัง
นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้บริหารสายการตลาด ศูนย์การค้าสยามพารากอน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจฝั่งยุโรปซบเซา เอเชียจึงถือเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นโอกาสของกลุ่มสินค้าแฟชั่นลักชัวรีแบรนด์ที่จะเข้ามาเปิดตลาดได้ดี
เนื่องจากกลุ่มประเทศจีน ฮ่องกง และอินเดีย ถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตสูง โดยเฉพาะในจีนกำลังซื้อสูงมาก กลุ่มเศรษฐีใหม่ที่เกิดขึ้นมีความต้องการสินค้าแฟชั่นลักชัวรีอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนได้ถึง 23% โดยเฉพาะในส่วนนาฬิกาลักชัวรีแบรนด์นั้น ปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์เป็นแหล่งผลิตใหญ่สุดของโลก ปีที่ผ่านมากำลังซื้อในฝั่งยุโรปและอเมริกาตกลง แต่ในเอเชียกลับมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในจีน ขณะที่ฮ่องกงถือเป็นประเทศที่มีการนำเข้านาฬิกากลุ่มนี้สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ล่าสุดสยามพารากอนทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาทสำหรับการจัดงาน “สยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2012” ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-19 ส.ค.นี้ โดยการนำนวัตกรรมนาฬิกาจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 200 แบรนด์ รวมกว่า 30,000 เรือนเข้ามาจำหน่าย ซึ่งราคาภายในงานใกล้เคียงกับที่ฮ่องกง ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดกำลังซื้อจากจีนได้ค่อนข้างมาก คิดเป็นยอดขายกว่า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นจากต่างชาติ 30% และไทย 70% ระหว่างการจัดงานมั่นใจว่าจะส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดภายในศูนย์การค้าสยามพารากอนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับตลาดรวมนาฬิกาปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5-10% และในส่วนของสยามพารากอนคาดว่าจะมีการเติบโตเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด โดยเฉพาะกลุ่มนาฬิกาลักชัวรีแบรนด์ ราคาตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป ที่มีสัดส่วนกว่า 30-40% ส่วนกลุ่มกลางถึงบน ราคาราว 1-3 แสนบาท สัดส่วนที่ 30-40% จะเติบโต 20%
นายมนาเทศกล่าวต่อว่า ภาพรวมยอดขายของศูนย์การค้าสยามพารากอนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 10% ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ภายในศูนย์ฯ ยังมีกลุ่มสินค้าแฟชั่นลักชัวรีแบรนด์ รวมถึงพรีเมียมแบรนด์เข้ามาจำหน่ายอีกมาก เช่น ดิออร์ เฟนดิ เอชแอนด์เอ็ม เป็นต้น จะส่งผลให้สยามพารากอนเป็นศูนย์การค้าที่มีสินค้าแฟชั่นลักชัวรีแบรนด์ครบครันที่สุดในไทย
ขณะที่ครึ่งปีหลังนี้ทางศูนย์การค้าสยามพารากอนเตรียมใช้งบการตลาดสำหรับการจัดกิจกรรมกลุ่มสินค้าลักชัวรีแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งภายในปลายเดือนกันยายนนี้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นลักชัวรีแบรนด์อีกงานหนึ่ง มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมียอดทราฟฟิกคนเข้าศูนย์ฯ รวมเติบโต 10% จากปีที่แล้ว