คณะอนุกรรมการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากอุทกภัยอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจำนวน 27 โครงการ เงินลงทุนรวม 15,874.8 ล้านบาท โดย 21 โครงการยังลงทุนในที่ตั้งเดิมเพราะมั่นใจแผนรับมือน้ำท่วม อีก 3 โครงการย้ายที่ตั้งใหม่แต่ยังเก็บที่ตั้งเดิมไว้รอลงทุน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 55 ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้การส่งเสริมแก่ 27 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 15,874.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มแรกเป็นโครงการฟื้นฟูกิจการที่เสียหายจากอุทกภัย มีจำนวน 25 โครงการ เงินลงทุนรวม10,658.8 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ตั้งกิจการในสถานที่เดิม 21 โครงการ ย้ายไปสถานที่ใหม่ 3 โครงการ และดำเนินการในสถานที่เดิมควบคู่กับเพิ่มสถานที่ตั้งใหม่ 1 โครงการ และกลุ่มที่ 2 เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ในนิคมและเขตอุตสาหกรรมใน 2 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย มี 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 5,216 ล้านบาท
สำหรับสถิติการยื่นขอรับการส่งเสริมตามมาตรการฟื้นฟูการลงทุนจากอุทกภัย จนถึงขณะนี้มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 95 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 45,760 ล้านบาท และได้อนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว 15 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 6,994.4 ล้านบาท โดยกิจการอิเล็กทรอนิกส์เป็นกิจการที่มีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมและมีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด
ส่วนการลงทุนโครงการใหม่ในนิคมและเขตอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานีที่เป็นจังหวัดที่ประสบอุทกภัย มีจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 13 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 9,747 ล้านบาท โดยมีการอนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว 2 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2,637 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีบริษัทได้รับการอนุมัติให้นำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องที่เสียหาย รวม 457 โครงการ รวมมูลค่าเครื่องจักร 106,335 ล้านบาท ภายใต้มาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องจักรที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา