บัดดี้กรุ๊ปทุ่ม 2,200 ล้านบาทในระยะ 4 ปี ปรับโฉมถนนข้าวสารสร้างพื้นที่ค้าปลีก พร้อมผุดโรงแรม 2 แห่งที่พัทยา และภูเก็ต รับนักท่องเที่ยวตลาดกลางเติบโตต่อเนื่องหลังเปิด AEC
นายสง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจจากนี้ถึงปี 2558 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการระยะสั้น วงเงิน 100 ล้านบาทพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกบนถนนข้าวสาร รวม 2 โครงการ โดยเฟสแรกใช้พื้นที่ 200 ตารางวาสร้างเป็นพื้นที่ค้าปลีก 4 ยูนิต และแบ่งพื้นที่อีกส่วนทำพิพิธภัณฑ์ ประวัติของถนนข้าวสาร และประวัติของเขตพระนคร
นอกจากนั้นยังเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส “Chezdruno” รวมเงินลงทุน 30 ล้านบาท เปิดให้บริการ 1 สิงหาคมศกนี้ ส่วนเฟสที่สอง พื้นที่ 400 ตารางวา สร้างเป็นร้านค้าปลีก 20 ยูนิต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปีหน้า
“ทั้งสองพื้นที่ค้าปลีกปัจจุบันเป็นบ้านเก่า ทางบริษัทจะเข้าไปรีโนเวตแล้วจัดแบ่งเป็นพื้นที่ค้าขาย ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มีดีไซน์ ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าแบรนด์เนม และเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาขายไอเดีย คาดหวังจะให้เป็นแลนด์มาร์กบนถนนข้าวสาร ลบภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขายของก๊อบปี้ หรือแหล่งเธค บาร์ เพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต”
โดยศักยภาพท่องเที่ยวของถนนข้าวสารมีอัตราการเติบโตที่ดี เฉลี่ยต่อวันมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 8,000-10,000 คน มีจำนวนห้องพักรวม 8,000 ห้อง
สำหรับแผนงานระยะยาว ได้เตรียมใช้งบลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาทสร้างโรงแรมบัดดี้ที่พัทยา และภูเก็ต รองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา แบ่งเป็นเอเชีย 10% และ ยุโรป 90% แต่ภายใน 2 ปีสัดส่วนนักท่องเที่ยวเอเชียจะเพิ่มเป็น 20% จึงมองว่าจะเป็นโอกาสของการขยายตัวของธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง ซึ่งบัดดี้ก็จะได้อานิสงส์ด้วย โดยแบรนด์ที่จะใช้ในพร็อพเพอร์ตี้ 2 แห่งใหม่นี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้ บัดดี้ ลอดจ์ หรือ บัดดี้ โอเรียนทอล
นอกจากนั้น ในปีนี้จะใช้งบอีก 100 ล้านบาทรีโนเวตโรงแรม 2 แห่งในกรุงเทพฯ คือ โฮเต็ล เดอ ม็อค และบัดดี้ ลอดจ์
นายสง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจจากนี้ถึงปี 2558 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการระยะสั้น วงเงิน 100 ล้านบาทพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกบนถนนข้าวสาร รวม 2 โครงการ โดยเฟสแรกใช้พื้นที่ 200 ตารางวาสร้างเป็นพื้นที่ค้าปลีก 4 ยูนิต และแบ่งพื้นที่อีกส่วนทำพิพิธภัณฑ์ ประวัติของถนนข้าวสาร และประวัติของเขตพระนคร
นอกจากนั้นยังเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส “Chezdruno” รวมเงินลงทุน 30 ล้านบาท เปิดให้บริการ 1 สิงหาคมศกนี้ ส่วนเฟสที่สอง พื้นที่ 400 ตารางวา สร้างเป็นร้านค้าปลีก 20 ยูนิต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปีหน้า
“ทั้งสองพื้นที่ค้าปลีกปัจจุบันเป็นบ้านเก่า ทางบริษัทจะเข้าไปรีโนเวตแล้วจัดแบ่งเป็นพื้นที่ค้าขาย ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มีดีไซน์ ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าแบรนด์เนม และเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาขายไอเดีย คาดหวังจะให้เป็นแลนด์มาร์กบนถนนข้าวสาร ลบภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขายของก๊อบปี้ หรือแหล่งเธค บาร์ เพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต”
โดยศักยภาพท่องเที่ยวของถนนข้าวสารมีอัตราการเติบโตที่ดี เฉลี่ยต่อวันมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 8,000-10,000 คน มีจำนวนห้องพักรวม 8,000 ห้อง
สำหรับแผนงานระยะยาว ได้เตรียมใช้งบลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาทสร้างโรงแรมบัดดี้ที่พัทยา และภูเก็ต รองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา แบ่งเป็นเอเชีย 10% และ ยุโรป 90% แต่ภายใน 2 ปีสัดส่วนนักท่องเที่ยวเอเชียจะเพิ่มเป็น 20% จึงมองว่าจะเป็นโอกาสของการขยายตัวของธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง ซึ่งบัดดี้ก็จะได้อานิสงส์ด้วย โดยแบรนด์ที่จะใช้ในพร็อพเพอร์ตี้ 2 แห่งใหม่นี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้ บัดดี้ ลอดจ์ หรือ บัดดี้ โอเรียนทอล
นอกจากนั้น ในปีนี้จะใช้งบอีก 100 ล้านบาทรีโนเวตโรงแรม 2 แห่งในกรุงเทพฯ คือ โฮเต็ล เดอ ม็อค และบัดดี้ ลอดจ์