อกริฟู้ดแตกไลน์วัตถุดิบจากรำข้าวสู่ขนมขบเคี้ยว ท้าชนซันไบท์ ตามด้วยอาหารเสริมในปีหน้า หวังดันรายได้ปีนี้ทะลุ 1,300 ล้านบาท
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีอีโออกริฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าวเปิดเผยว่าจากเดิมที่บริษัทโฟกัสการผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าวมาตลอดล่าสุดมีแนวคิดที่จะดึงเอาสรรพคุณจากรำข้าวออมาสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆให้คนไทยได้รุ้จักและเลือกใช้มากยิ่งขึ้นดังนั้นบริษัทจึงมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจกลุ่มผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามรวมไปถึงกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวจากรำข้าวซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสร้างโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวอยู่เบื้องต้นได้เตรียมงบ 90 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าและทำการตลาดภายหลังจากวางแผนการดำเนินธุรกิจและพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้งบลงทุน 500 ล้านบาท
โดยสินค้าตัวแรกที่ทำตลาดคือ ขนมขบเคี้ยวรำข้าวอบกรอบเบื้องต้นอาจจะอยู่ภายใต้แบรนด์T.R.B.O.เดอะไรซ์บราน คอมปะนี ซึ่งการทำขนมขบเคี้ยวครั้งนี้เกิดจากได้นักธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อนำสินค้าดังกล่าวเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น แต่เบื้องต้นการทำตลาดสินค้าดังกล่าวบริษัทจะเน้นการทำประเทศไทยเป็นหลัก โดยคาดว่าประมาณกลางเดือนส.ค.นี้จะสามารถเปิดตัวขนมรำข้าวอบกรอบเข้าทำตลาดได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นขณะนี้กำลังเจรจากับตัวแทนจำหน่ายว่าจะให้รายใดเป็นผู้ทำตลาดให้คาดว่าในเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุป ซึ่งจากการที่สินค้าของเราเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพเน้นเจาะกลุ่มที่รักสุขภาพ อาจทำให้รสชาติของสินค้าไม่จัดจ้านเหมือนกับคู่แข่งในตลาดอย่างซันไบท์ ขณะเดียวกันราคาขายของเราก็จะสูงกว่าคือขนาด 25 กรัมราคา20 บาท ขนาด 50 กรัม 39 บาทมั่นใจว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่รักสุขภาพ
ส่วนกลุ่มสินค้าอาหารเสริมและเครื่องสำอางที่ผลิตจากน้ำมันรำข้าวนั้น คาดว่าภายในปี2556บริษัทจะเริ่มดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่งแบรนด์สินค้าที่จะนำมาใช้ก็จะเป็นแบรนด์“T.R.B.O.”เช่นกัน เบื้องต้นจะผลิตกลุ่มสินค้าอาหารเสริมที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว1รายการและกลุ่มเครื่องสำอางที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว 20 รายการ
อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 12-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,100 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากการขายน้ำมันรำข้าว 50% และกากรำสกัด 50% ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในอนาคตนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีอีโออกริฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าวเปิดเผยว่าจากเดิมที่บริษัทโฟกัสการผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าวมาตลอดล่าสุดมีแนวคิดที่จะดึงเอาสรรพคุณจากรำข้าวออมาสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆให้คนไทยได้รุ้จักและเลือกใช้มากยิ่งขึ้นดังนั้นบริษัทจึงมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจกลุ่มผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามรวมไปถึงกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวจากรำข้าวซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสร้างโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวอยู่เบื้องต้นได้เตรียมงบ 90 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าและทำการตลาดภายหลังจากวางแผนการดำเนินธุรกิจและพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้งบลงทุน 500 ล้านบาท
โดยสินค้าตัวแรกที่ทำตลาดคือ ขนมขบเคี้ยวรำข้าวอบกรอบเบื้องต้นอาจจะอยู่ภายใต้แบรนด์T.R.B.O.เดอะไรซ์บราน คอมปะนี ซึ่งการทำขนมขบเคี้ยวครั้งนี้เกิดจากได้นักธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อนำสินค้าดังกล่าวเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น แต่เบื้องต้นการทำตลาดสินค้าดังกล่าวบริษัทจะเน้นการทำประเทศไทยเป็นหลัก โดยคาดว่าประมาณกลางเดือนส.ค.นี้จะสามารถเปิดตัวขนมรำข้าวอบกรอบเข้าทำตลาดได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นขณะนี้กำลังเจรจากับตัวแทนจำหน่ายว่าจะให้รายใดเป็นผู้ทำตลาดให้คาดว่าในเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุป ซึ่งจากการที่สินค้าของเราเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพเน้นเจาะกลุ่มที่รักสุขภาพ อาจทำให้รสชาติของสินค้าไม่จัดจ้านเหมือนกับคู่แข่งในตลาดอย่างซันไบท์ ขณะเดียวกันราคาขายของเราก็จะสูงกว่าคือขนาด 25 กรัมราคา20 บาท ขนาด 50 กรัม 39 บาทมั่นใจว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่รักสุขภาพ
ส่วนกลุ่มสินค้าอาหารเสริมและเครื่องสำอางที่ผลิตจากน้ำมันรำข้าวนั้น คาดว่าภายในปี2556บริษัทจะเริ่มดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่งแบรนด์สินค้าที่จะนำมาใช้ก็จะเป็นแบรนด์“T.R.B.O.”เช่นกัน เบื้องต้นจะผลิตกลุ่มสินค้าอาหารเสริมที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว1รายการและกลุ่มเครื่องสำอางที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว 20 รายการ
อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 12-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,100 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากการขายน้ำมันรำข้าว 50% และกากรำสกัด 50% ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในอนาคตนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้