ASTVผู้จัดการรายวัน - ไอเบฟฯ เทกว่า 150 ล้านบาทผุดบริษัทลุยธุรกิจฟังก์ชันนัลดริงก์ ร่วมลงทุนฮุ้ยชุน หวังใช้โรงงานผลิตเครื่องดื่มป้อนตลาดไทย-เทศรับ AEC ปูพรม 5 ตัว ปั้นซอรัสเปิดศึกชูกำลังระดับบน ชิงบัลลังก์กระทิงแดง-M-150 วางหมากปีแรกกวาดแชร์ 2% ครึ่งปีหลังส่ง 4 ตัวลุยฟังก์ชันนัลดริงก์เจาะทุกกลุ่ม ตั้งเป้า 3 ปีกวาดรายได้ 750 ล้านบาท
นายชนินทร์ เทียนเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังซอรัส เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทไอเบฟเวอเรจเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ ภายใต้แนวคิด “Mission to Innovation” โดยในช่วง 3 ปีวางแผนบุกตลาดในประเทศเป็นหลัก และในปี 2558 จะรุกขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อรองรับการเกิดประชาคมอาเซียน ในเบื้องต้นวางแผนทำตลาดอินโดนีเซีย กัมพูชา และโดยเฉพาะพม่ามีแผนจะสร้างโรงงานโดยการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาทร่วมทุนกับบริษัทฮุ้ยชุน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องดื่มให้บริษัทในลักษณะรับจ้างผลิต ตั้งอยู่ที่ จ.นครปฐม โดยการลงทุนของบริษัทจะเป็นลักษณะขยายไลน์ผลิตเครื่องดื่มใหม่ ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดมุ่งนำเสนอเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ เป็นเซกเมนเตชันมาร์เกตหรือแคทิกอรีใหม่ ประเดิมปีนี้ส่งเครื่องดื่ม 5 รายการ นำร่องส่งเครื่องดื่มชูกำลัง “ซอรัส” และอีก 4 รายการเป็นฟังก์ชันนัลดริงก์ ได้แก่ เครื่องดื่มวิธ ซิงค์ เครื่องดื่มวิตามินเจาะผู้หญิง เครื่องดื่มสำหรับเด็ก และ Hioz เครื่องดื่มเจาะตลาดนักกีฬา ซึ่งจะครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ แต่ละปีจะเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รายการ โดยเครื่องดื่มชูกำลังซอรัสวางตำแหน่งเป็นเครื่องดื่มระดับบน ราคา 15 บาท เทียบเท่ากับคู่แข่ง 2 ค่าย คือ เรดดี้ของกระทิงแดง และ M-Storm ของบริษัทโอสถสภา เจาะกลุ่มวัยรุ่น คนทำงานรุ่นใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพเครื่องดื่มชูกำลังตลาดบน 5% จากตลาด 18,000 ล้านบาท โต 20-25% และปีนี้คาดว่าตลาดโต 25-30% หรือสัดส่วนตลาดเพิ่มเป็น 7-8% เมื่อเทียบกับตลาดระดับล่างราคา 10 บาท และตลาดกลางราคา 12 บาท สัดส่วน 95% เติบโต 3-4% ซึ่งภาพรวมตลาดแทบไม่เติบโตเลยตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
“ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไม่เติบโตมาจากภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานดื่ม และมีส่วนผสมกาเฟอีน ทำให้ไม่สามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อย่างไรก็ตามจากการรุกตลาดของบริษัทและคู่แข่งใหม่ๆ คาดว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้โต 6% ส่วนภาพรวมตลาดฟังก์ชันนัลมูลค่า 3,000 ล้านบาท ติดลบ 5% โดยตลาดที่เติบโตเป็นเรียลฟังก์ชันนัลดริงก์ อาทิ กลุ่ม เปปทีน ฯลฯ”
นายชนินทร์กล่าวว่า บริษัททุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาทในการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์มูฟวีมาร์เกตติ้ง โดยสนับสนุนหนังระดับโลก 5 เรื่อง พร้อมทั้งเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เริ่มจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น คาดว่าปีแรกมีส่วนแบ่ง 30% ตลาดระดับบน และ 2% ในตลาดรวม 18,000 ล้านบาท และเดือนมิถุนายนส่งเครื่องดื่มซีแซด วิธ ซิงค์ สู่ช่องทางเทรดิชันนัลเทรด สำหรับผลประกอบการปีแรกตั้งเป้ารายได้ 400 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 25% หรือ 500 ล้านบาท ส่วนแผน 3 ปีตั้งเป้ารายได้ 750 ล้านบาท