ยอดใช้น้ำมัน เม.ย.วูบจากราคาแพง แนวโน้ม พ.ค.พุ่ง

กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เผยแนวโน้มการใช้น้ำมันเดือนพฤษภาคม 55 จะสูงขึ้นจากเดือนเมษายน จากปัจจัยราคาน้ำมันโลกเริ่มลด โรงงานต่างๆ มีการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นจากภาวะน้ำท่วม หลังเดือนเมษายนการใช้พลังงานทุกชนิดลดลง โดยเบนซินลด 2% ดีเซลลด 5% แอลพีจีลด 7% และเอ็นจีวีลด 7% จากเหตุราคาแพง

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการใช้น้ำมันเดือนพฤษภาคม 55 คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 55 เนื่องจากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับตัวลดลง ประกอบกับภาคธุรกิจเริ่มมีการฟื้นตัวจากภาวะน้ำท่วม และเดือนพฤษภาคมมีวันทำการมากกว่าเดือนเมษายนที่เป็นช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์ค่อนข้างยาว โดยล่าสุดอัตราการใช้เบนซินรวมช่วง 1-12 พฤษภาคม 55 นั้น เบนซินมีการใช้แล้ว 18.5 ล้านลิตรต่อวัน ดีเซล 56.4 ล้านลิตรต่อวัน

ขณะที่ภาพรวมการใช้น้ำมันในเดือนเมษายน 55 พบว่ากลุ่มเบนซินมีการใช้ทั้งสิ้น 20.3 ล้านลิตรต่อวันลดลงจากเดือนมีนาคม 55 ที่การใช้อยู่ระดับ 20.6 ล้านลิตรต่อวันหรือปรับตัวลดลง 2% ส่วนดีเซลเดือนเมษายน 55 การใช้อยู่ที่ 55.9 ล้านลิตรต่อวันหรือปรับลดลงจากเดือนมีนาคม 55 ระดับ 5% สาเหตุจากช่วงสงกรานต์การเดินทางท่องเที่ยวปรับลดจากราคาน้ำมันแพง ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายจากภาวะน้ำท่วม รวมถึงข่าวแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา เช่นเดียวกับการใช้เอ็นจีวีที่การใช้อยู่ที่ 7.2 ล้านกิโลกรัมต่อวันลดลงจากเดือนมีนาคม 7%

สำหรับการใช้แอลพีจีภาพรวมเดือนเมษายน 55 อยู่ที่ 19,000 ตันต่อวันหรือการใช้รวมอยู่ที่ 5.69 แสนตัน ลดลงจากเดือนมีนาคมประมาณ 7% ซึ่งเป็นการลดลงทุกภาคส่วนเนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวลดลง รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หยุดดำเนินการในช่วงสงกรานต์ประกอบกับราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมปรับขึ้นไปอยู่ระดับ 30.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ราคาภาคขนส่งปรับไปอยู่ที่ 21.13 บาทต่อ กก. ทำให้แอลพีจีภาคอุตสาหกรรมใช้ลดลง 17% ขนส่งลดลง 6% ภาคครัวเรือนลดลง 3%