“บุญทรง” จับเข่าถก รมว.พาณิชย์เขมร เร่งทำแผนปฏิบัติการ 4 ปี ร่วมการค้า ลงทุน 4 ด้าน ดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมโยงตลาดข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ส่งออกร่วมกัน ส่วนประเด็นข้าวเขมรทะลักสวมสิทธิรับจำนำไม่น่าห่วง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกับนายจอม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) หรือ JTC ระหว่างไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 โดยระบุว่าการหารือทั้ง 2 ฝ่ายจะพัฒนาความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน เบื้องต้นได้มีข้อตกลงเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันปีละร้อยละ 30 ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าทั่วไป นอกจากนี้ยังร่วมมือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะดำเนินการเร่งด่วนที่สุด
นายบุญทรงกล่าวว่า หลังจากนี้จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งผลักดัน ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์การค้าตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ โดยพื้นที่ที่สามารถเริ่มได้ เช่น จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีการค้าชายแดนระหว่างกัน และในอนาคตความร่วมมือการค้าตามแนวชายแดนในลักษณะ JTC จะมีการขยายความร่วมมือไปประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น ลาว เวียดนาม และพม่า
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันที่จะจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีและผู้ค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารในฐานะที่เป็นผู้ผลิตข้าวทั้ง 2 ประเทศ และในอนาคตจะมีการจัดตั้งสมาพันธ์กลุ่มอื่นๆ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาคด้วย สำหรับความมั่นคงนี้จะทำให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านสามารถเจรจากับคู่ค้าที่อยู่ในภูมิภาคอื่น เช่น เอเชียตะวันออก และภูมิภาคอื่นๆ ได้ดีมากขึ้น
รมว.พาณิชย์ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในรัฐบาลปัจจุบันเป็นไปด้วยดีและปกติ ที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากความเข้าใจไม่ตรงกัน เชื่อว่าหลังจากนี้จะปรับตัวในทิศทางที่ดี โดยปีที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามีมูลค่าประมาณ 90,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 ตามเป้าหมายที่ทั้ง 2 ประเทศมีข้อตกลงไว้จะทำให้การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ปีที่ผ่านมามีนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้นตามลำดับด้วย