CMO ปลื้มรายได้ไตรมาสแรกพุ่ง 116%
เดินเกมรุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ
ประกาศเป้า 3 ปีสู่ธุรกิจ 2,000 ล้านบาท
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจอีเวนต์ครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2555 (มกราคม-มีนาคม 2555) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 509.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 273.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 ที่มีรายได้ 235.88 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 71.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.48 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 6.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 843%
ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากการที่งานกิจกรรมทางการตลาดขนาดใหญ่ที่เลื่อนมารับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี เช่น งานบีโอไอแฟร์, งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเลื่อนมาจากกำหนดการเดิมคือในไตรมาสที่ 4/2554 บวกกับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯ ได้รับงานเปิดตัวสินค้าของผู้ประกอบการในภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างแข่งขันกันจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย ฟื้นฟูกิจการหลังประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว
“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ CMO ถือว่าเติบโตได้ดีเป็นอัตราที่น่าพอใจ โดยสามารถพลิกมาเป็นกำไรได้ถึง 71.17 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน และถือว่าเป็นการเติบโตสูงถึง 843% ซึ่งมาจากการที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชนให้จัดงานสำคัญๆ ของประเทศ ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของกลุ่มบริษัทเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากรายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ที่เราทำได้ถึง 509.30 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาทได้แน่นอน เพราะเพียงไตรมาสแรกบริษัทฯ ก็มีรายได้กว่า 500 ล้านบาทแล้ว และตั้งเป้าภายใน 3 ปีบริษัทฯ จะเติบโตมีรายได้ 2,000 ล้านบาท โดยการเติบโตของธุรกิจจะมาจากการรับงานภาครัฐ 35% และงานภาคเอกชน 65%” นายเสริมคุณกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/2555 มีงานที่รับรู้รายได้ เช่น งานบีโอไอแฟร์ 2011, งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ, งาน HomePro Expo, งาน ก.ป.ร. “84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา”, งานเกี๊ยวกุ้งเกมส์ CP the Biggest Eater Competition Grand Final, งาน Canon Wind Turbine 2012 และงาน Swaroksi SCS 2012 เป็นต้น
สำหรับแผนงานในปี 2555 บริษัทฯ จะขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยในช่วงครึ่งปีแรกเรามุ่งเจาะตลาดประเทศพม่า, ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพื้นที่ติดกับประเทศไทย และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 5%
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาทเพื่อสร้าง Bangkok Creative Playground บนพื้นที่ 12 ไร่ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2556 ซึ่งที่นี่จะเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ที่รวบรวมไอเดียใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจสร้างสรรรค์ ตลอดจนเป็นสำนักงานใหม่ของบริษัทฯ อีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็เตรียมทุ่มงบอีกประมาณ 50 ล้านบาทในบริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มศักยภาพด้านงานซัปพลายของงานธุรกิจ Entertainment เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพีเอ็ม เซ็นเตอร์ เป็นบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจเป็นศูนย์บริการด้านอุปกรณ์ครอบคลุมทุกประเภท ตั้งแต่ระบบเสียง ระบบแสง ระบบภาพ และเทคนิคพิเศษต่างๆ
“อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มั่นใจว่าทั้งปีนี้ผลงานเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 1,000 ล้านบาทได้แน่ เพราะขณะนี้บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกหลายงาน ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์”, งาน Money Expo, Harley Bike Week 2012, PTT Booth in GASEX 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่บาหลี, งาน Canon Wind turbine, งาน HomePro Expo และงานหอจดหมายเหตุ ธ.ก.ส. ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้” นายเสริมคุณกล่าวทิ้งท้าย