“พาณิชย์” เผยเดือนเมษายนไฟเขียวต่างชาติทำธุรกิจเพิ่ม 31 ราย หอบเงินลงทุน 1,641 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 400 คน
นายอิทธิพล ช้างหลำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวน 31 ราย มีเงินทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 1,641 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทยจำนวน 421 คน
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตดังกล่าว ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการ จำนวน 19 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 1,462 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้แก่บริษัทในเครือ ในกลุ่มเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน การให้คำปรึกษาแนะนำ รับค้ำประกันหนี้ บริการทางบัญชี บริการให้เช่าที่ดิน เป็นต้น ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเยอรมนี
2. ธุรกิจสำนักงานผู้แทน จำนวน 7 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิต การจำหน่าย การลงทุน การตลาด ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบ รองลงมาเป็นการให้คำแนะนำในด้านต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่ที่จำหน่ายแก่ตัวแทนจำหน่ายและผู้ใช้สินค้าในประเทศไทย ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
3. คู่สัญญากับภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 148 ล้านบาท ได้แก่ บริการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา รวมทั้งการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับโครงการก่อสร้างและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วมให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี
4. ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุน 3 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกแม่พิมพ์ที่ใช้สำหรับผลิตชิ้นส่วนยางสังเคราะห์ให้แก่ผู้ที่ว่าจ้างให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยางสังเคราะห์ให้ ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ ญี่ปุ่น
5. ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 4 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งสายไฟและสายเคเบิลที่ผลิตโดยบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่มให้แก่ผู้แทนจำหน่าย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
นายอิทธิพล ช้างหลำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวน 31 ราย มีเงินทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 1,641 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทยจำนวน 421 คน
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตดังกล่าว ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการ จำนวน 19 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 1,462 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้แก่บริษัทในเครือ ในกลุ่มเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน การให้คำปรึกษาแนะนำ รับค้ำประกันหนี้ บริการทางบัญชี บริการให้เช่าที่ดิน เป็นต้น ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเยอรมนี
2. ธุรกิจสำนักงานผู้แทน จำนวน 7 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิต การจำหน่าย การลงทุน การตลาด ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบ รองลงมาเป็นการให้คำแนะนำในด้านต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่ที่จำหน่ายแก่ตัวแทนจำหน่ายและผู้ใช้สินค้าในประเทศไทย ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
3. คู่สัญญากับภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 148 ล้านบาท ได้แก่ บริการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา รวมทั้งการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับโครงการก่อสร้างและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วมให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี
4. ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุน 3 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกแม่พิมพ์ที่ใช้สำหรับผลิตชิ้นส่วนยางสังเคราะห์ให้แก่ผู้ที่ว่าจ้างให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยางสังเคราะห์ให้ ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ ญี่ปุ่น
5. ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 4 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งสายไฟและสายเคเบิลที่ผลิตโดยบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่มให้แก่ผู้แทนจำหน่าย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศที่เข้ามาลงทุน คือ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง