ผู้บริหาร “ซี.พี.” ยอมรับ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ “เออีซี” ในอีก 3 ปีข้างหน้าไม่ใช่เรื่องหมู เพราะยังมีอุปสรรคสำคัญ 3 ด้าน แนะภาคเอกชนต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การผ่อนคลายภาษี และอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด
ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 ของประเทศไทย โดยมองว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะยังมีประเด็นที่ท้าทายอย่างน้อย 3 เรื่องที่ภาคธุรกิจจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ โดยมีภาครัฐบาลเข้ามาคอยเป็นพี่เลี้ยง
สำหรับประเด็น 3 เรื่องดังกล่าว ได้แก่ เรื่องของเงินทุน ซึ่งภาคธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ทั้งเกษตร พลังงาน ที่ยังมีปัญหาในเรื่องของการเข้าถึงแหล่งทุน เรื่องที่ 2 ระบบภาษี ที่ยังไม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน
ส่วนเรื่องที่ 3 ได้แก่ กฎระเบียบต่างๆ ที่เข้มงวดของรัฐบาลในการควบคุมเรื่องต่างๆ ที่ยังไม่ผ่อนคลาย เพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศได้สะดวกมากขึ้น
ดังนั้น การเกิดขึ้นของเออีซีในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงเป็นสิ่งที่ประเทศไทยและอุตสาหกรรมไทย จะต้องเร่งปรับตัว โดยภาครัฐควรต้องเข้ามาสนับสนุนภาคเอกชนให้มากกว่านี้
ทั้งนี้ แนวโน้มจีน และอินเดียมีนโยบายมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบอย่างในขยายการลงทุนระหว่างประเทศ แม้ในช่วงที่ผ่านมาจีนจะไปลงทุนในแอฟริกาหลายโครงการ แต่อาเซียนในมุมมองของจีนก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
ดังนั้น เออีซีจึงเป็นเส้นทางแห่งโอกาส เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนมหาศาล เป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมฐานความมั่นคงของแต่ละประเทศ ให้ดีขึ้นและในอนาคตอันใกล้อเมริกาและยุโรป
นอกจากนี้ ยังเป็นอีกทุนใหญ่ที่จะเข้ามาในตลาดอาเซียนเช่นกัน โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยในวันนี้จึงอยู่ที่ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับการลงทุนดังกล่าวเพียงใด