นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานมาเลเซีย บรูไน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมนำผู้ประกอบการท่องเที่ยว (ทัวร์โอเปอเรเตอร์) รายใหญ่จากประเทศมาเลเซีย จำนวน 10 ราย ร่วมเดินทางสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 55 เน้นการนำเสนอเส้นทางใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด ไทยแลนด์ แอนด์ บียอนด์ ตอกย้ำให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ หนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ และครอบครัว เมืองที่จะเข้าไปเจาะตลาด นอกจากกัวลาลัมเปอร์ จะเล็งไว้ที่เกาะปีนัง เมืองอิโปห์ (Ipoh) และเมืองอลอร์สตาร์ของรัฐเคดาร์ ซึ่งจะอยู่โซนเหนือของมาเลเซียใกล้ประเทศไทย
“ทางสำนักงานฯ ต้องการให้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย โดยจะส่งเสริมควบคู่กับเส้นทางท่องเที่ยวในภาคใต้ในเดสติเนชันที่เป็นจังหวัดรอง เช่น ใช้หาดใหญ่เป็นฮับส่งเสริมไปเที่ยวเมืองรอง อย่างตรัง หรือไปเที่ยวหาดหลีเป๊ะ จ.สตูล นอกจากนั้น การที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเปิดเที่ยวบิน KL-สมุย ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวยังทะเลอ่าวไทยเพิ่มขึ้น จุดขายของไทยที่โปรโมตได้ คือ ทะเลสวย บริการดี อาหารอร่อย และหลายเดสติเนชันเป็นอาหารฮาลาล”
สำหรับเส้นทางที่จะนำเสนอเป็นเดสติเนชันท่องเที่ยวแก่ชาวมาเลเซีย ได้แก่ จ.กาญจนบุรี นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวน้ำตกไทรโยค เที่ยว อ.สังขละบุรี ชมวิถีชีวิตชาวมอญ พร้อมเที่ยวชมด่านเจดีย์สามองค์ นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมมือกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียในทุกเส้นทางที่บิน ซึ่งจะมีทั้งภายในประเทศไทย เช่น สุโขทัย เชียงใหม่ และเส้นทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น หลวงพระบาง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมายังได้จัดแฟมทริป เชิญมีเดีย และบริษัทนำเที่ยวจากมาเลเซียมาร่วมเที่ยวงานมิดไนต์สงกรานต์หาดใหญ่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยตลอดไป เพราะสำหรับนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ไทยถือเป็นวีกเอนด์เดสติเนชัน ขณะที่ไทยเองก็มองว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นตลาดโดเมสติกอินเตอร์
โดยปี 2554 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยรวม 2.4 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 25,000 บาทต่อทริป ปีนี้ตั้งเป้าที่ 2.5 ล้านคน คาดการณ์รายได้ที่ 62,500 ล้านบาท
“ทางสำนักงานฯ ต้องการให้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย โดยจะส่งเสริมควบคู่กับเส้นทางท่องเที่ยวในภาคใต้ในเดสติเนชันที่เป็นจังหวัดรอง เช่น ใช้หาดใหญ่เป็นฮับส่งเสริมไปเที่ยวเมืองรอง อย่างตรัง หรือไปเที่ยวหาดหลีเป๊ะ จ.สตูล นอกจากนั้น การที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเปิดเที่ยวบิน KL-สมุย ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวยังทะเลอ่าวไทยเพิ่มขึ้น จุดขายของไทยที่โปรโมตได้ คือ ทะเลสวย บริการดี อาหารอร่อย และหลายเดสติเนชันเป็นอาหารฮาลาล”
สำหรับเส้นทางที่จะนำเสนอเป็นเดสติเนชันท่องเที่ยวแก่ชาวมาเลเซีย ได้แก่ จ.กาญจนบุรี นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวน้ำตกไทรโยค เที่ยว อ.สังขละบุรี ชมวิถีชีวิตชาวมอญ พร้อมเที่ยวชมด่านเจดีย์สามองค์ นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมมือกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียในทุกเส้นทางที่บิน ซึ่งจะมีทั้งภายในประเทศไทย เช่น สุโขทัย เชียงใหม่ และเส้นทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น หลวงพระบาง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมายังได้จัดแฟมทริป เชิญมีเดีย และบริษัทนำเที่ยวจากมาเลเซียมาร่วมเที่ยวงานมิดไนต์สงกรานต์หาดใหญ่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยตลอดไป เพราะสำหรับนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ไทยถือเป็นวีกเอนด์เดสติเนชัน ขณะที่ไทยเองก็มองว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นตลาดโดเมสติกอินเตอร์
โดยปี 2554 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยรวม 2.4 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 25,000 บาทต่อทริป ปีนี้ตั้งเป้าที่ 2.5 ล้านคน คาดการณ์รายได้ที่ 62,500 ล้านบาท