หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เมื่อเวลา 15.38 น. กฟผ.ยืนยันทุกเขื่อนของ กฟผ.มีความมั่นคงและปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบใดจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่หัวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 15.38 น. วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.7 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 969 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา 1,003 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี 1,495 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก 1,777 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี 1,515 กิโลเมตร และห่างจากเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี 1,899 กิโลเมตร
“จากการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของทุกเขื่อนของ กฟผ.ไม่พบว่าได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ทั้งนี้ กฟผ.มีการดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและบำรุงรักษาเพื่อความปลอดภัยอย่างมีระบบอยู่เป็นประจำ มีการนำเอาระบบตรวจวัดข้อมูลแบบอัตโนมัติมาติดตั้งใช้งานที่เขื่อน หากมีข้อมูลผิดปกติก็จะสามารถแจ้งเตือนให้ตรวจสอบได้ทันที ซึ่งช่วยให้งานด้านความปลอดภัยสำหรับเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ.มีประสิทธิภาพ ทัดเทียมมาตรฐานสากล ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเขื่อนของ กฟผ.มีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน มีความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ของเขื่อน” ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธากล่าวในที่สุด
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่หัวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 15.38 น. วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.7 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 969 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา 1,003 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี 1,495 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก 1,777 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี 1,515 กิโลเมตร และห่างจากเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี 1,899 กิโลเมตร
“จากการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของทุกเขื่อนของ กฟผ.ไม่พบว่าได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ทั้งนี้ กฟผ.มีการดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและบำรุงรักษาเพื่อความปลอดภัยอย่างมีระบบอยู่เป็นประจำ มีการนำเอาระบบตรวจวัดข้อมูลแบบอัตโนมัติมาติดตั้งใช้งานที่เขื่อน หากมีข้อมูลผิดปกติก็จะสามารถแจ้งเตือนให้ตรวจสอบได้ทันที ซึ่งช่วยให้งานด้านความปลอดภัยสำหรับเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ.มีประสิทธิภาพ ทัดเทียมมาตรฐานสากล ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเขื่อนของ กฟผ.มีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน มีความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ของเขื่อน” ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธากล่าวในที่สุด