xs
xsm
sm
md
lg

ศรีราชาโมด้าปั้น “คาริสซ่า” ลุยเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดเครื่องหนังไทยแกร่ง “ศรีราชาโมด้า” บุกหนัก จับมือ “โมด้า เจแปน” ปั้นแบรนด์ “คาริสซ่า” ผงาดในเอเชีย หวังจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มากขึ้น

นายกำธร เต็มศิริพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา โมด้า จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องหนังจระเข้ ภายใต้แบรนด์ “คาริสซ่า” เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทจะมุ่งทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้ร่วมกับบริษัทโมด้า เจแปน ผู้ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) และธุรกิจขายตรงรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายการทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องหนังจระเข้ภายใต้แบรนด์คาริสซ่าไปยังภูมิภาคเอเชีย หลังจากแบรนด์สินค้าดังกล่าวอยู่ในตลาด 5 ปี โดยบริษัทดังกล่าวจะเป็นผู้ดำเนินการวางกลยุทธ์การทำตลาด และพัฒนาช่องทางการขายไปยังประเทศต่างๆ
ในเอเชียนับจากนี้ไป

ด้านนายโยอิชิ นากาซากิ ประธานกรรมการบริษัทโมด้า เจแปน จำกัด กล่าวว่า การได้รับสิทธิ์ครั้งนี้จะเน้นขยายตลาดกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่นวัยทำงานระดับบนอายุ 20-30 ปี จากกลุ่มเดิมอยู่ที่ 40 ปีขึ้นไป โดยบริษัทเตรียมนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในศูนย์การค้าที่ กรุงโตเกียว และเมืองโอซากา จากปัจจุบันบริษัทมีจุดจำหน่ายสินค้าที่ย่านมินามิ, อาโอยามา และเตรียมเปิดร้านที่ย่านกินซะปลายปีนี้ และภายใน 2 ปีนับจากนี้จะขยายการทำตลาดในเอเชีย

สำหรับสินค้าแบรนด์คาริสซ่าชูจุดเด่นคุณภาพจากวัตถุดิบหนังจระเข้เกรดเอ ซึ่งบริษัทเป็นผู้ดำเนินการเพาะเลี้ยงพันธุ์จระเข้เพื่อเชิงพาณิชย์ โดยส่งออกวัตถุดิบให้แบรนด์เนมชั้นนำ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดังกล่าวในที่สุด วางระดับราคาสินค้าที่ 9 หมื่นบาท-1 แสนบาท หรือมีราคาถูกกว่าแบรนด์เนมชั้นนำราว 30-40% โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

สำหรับช่องทางจำหน่ายในประเทศไทย ปีนี้จะเปิดให้บริการครบ 3 จุด คือ ที่ห้างสรรพสินค้าเซน ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ศูนย์การค้าเพนนินซูล่า และศูนย์การค้าเซ็นทรัล จังหวัดภูเก็ต โดยวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้กว่า 10 ล้านบาท และวางเป้าเติบโตมากกว่า 2-3 เท่าตัวในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตวัตถุดิบจระเข้เฉลี่ย 1,000 ตัวต่อเดือน แบ่งสัดส่วน 80% แปรรูปหนังจระเข้เพื่อส่งออก และ 20% ผลิตสินค้าแบรนด์ดังกล่าวในประเทศ

ขณะที่ตลาดรวมเครื่องหนังจระเข้ในประเทศไทยคาดมีมูลค่ากว่า 4,000-5,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตดี จากการที่ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) แหล่งผลิตวัตถุดิบหนังจระเข้ที่มีคุณภาพสูงระดับโลก ที่ผลิตและส่งออกต่างประเทศสัดส่วน 10% และสัดส่วน 80% เป็นการนำเข้าจระเข้พันธุ์แอฟริกาที่นำมาแปรรูปวัตถุดิบเพื่อส่งออก ซึ่งในอนาคตตลาดนี้คาดว่ายังมีมูลค่าเติบโตอีกมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น