คมนาคม เผย ผลสรุปการคำนวณอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ที่เหมาะสม ไฟเขียวขึ้นค่าโดยสารตามระยะทาง ระยะละ 50 สตางค์ แทนการปรับขึ้นค่ามิเตอร์ เริ่มต้นจาก 35 บาท เป็น 40 หรือ 50 บาท ตามที่กลุ่มแท็กซี่เรียกร้อง เพราะจะส่งผลกระทบทั้งผู้โดยสาร และกลุ่มแท็กซี่ เนื่องจากจะมีผู้ใช้บริการน้อยลง คาดเริ่มก่อน 16 มี.ค.นี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงข้อสรุปในการคำนวณอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องต้นทุนราคาเชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า ปัจจุบันมีจำนวนแท็กซี่ 100,000 คัน วิ่งให้บริการจริง 80,000 คัน ระยะทาง 100 กิโลเมตร มีผู้โดยสาร 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นการวิ่งรถเปล่าตระเวนหาผู้โดยสาร
ดังนั้น เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายและรายได้ต่อกะ แท็กซี่จะมีรายจ่ายกะละ 930 บาท จากค่าเอ็นจีวี ค่าล้างรถ แต่มีรายได้เฉลี่ยต่อกะ 1,330 บาท เหลือ 400 บาท หากคิดเป็นเดือน มีรายได้ 12,000 บาท หากราคาเอ็นจีวีปรับขึ้นอีก รายได้จะลดลง ซึ่งแท็กซี่จะอยู่ไม่ได้ในภาวะค่าครองชีพสูง
เบื้องต้น กระทรวงคมนาคม สรุปแนวทางช่วยเหลือกลุ่มแท็กซี่ ด้วยการปรับขึ้นค่าโดยสารตามระยะทาง เพิ่มจากเดิมระยะละ 50 สตางค์ เช่น กิโลเมตรที่ 2-12 กิโลเมตร จากเดิม 5 บาท เป็น 5.50 บาท แต่ไม่ให้ปรับขึ้นค่ามิเตอร์เริ่มต้น จาก 35 บาทเป็น 40 หรือ 50 บาท ตามที่กลุ่มแท็กซี่ร้องขอ เนื่องจากเห็นว่าจะส่งผลกระทบทั้งผู้โดยสารและกลุ่มแท็กซี่ เนื่องจากจะมีผู้ใช้บริการน้อยลง
โดยหลังจากนี้ คมนาคมจะนำแนวทางนี้ไปหารือกับกรมการขนส่งทางบก และกระทรวงพลังงาน รวมทั้งกลุ่มแท็กซี่ เพื่อประกาศใช้ก่อนที่จะปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีรอบใหม่ ในวันที่ 16 เมษายน 2555 นี้