ASTVผู้จัดการรายวัน - “ดอยคำ” ทุ่มงบ400 ล้านบาท เพิ่มโรงงานหลังที่ 3 รับสินค้าเกษตรช่วยเกษตรกรไทย ชี้ราคาพืชผลขึ้นราคาไม่ช่วยอะไร เดินหน้าเสริมความรู้ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในพื้นที่เดิมดีที่สุด มั่นใจแข่งขันได้ในระดับต่างประเทศ ล่าสุดจับมือ “ซีเล็ค” ป้อนมะเขือเทศเป็นวัถตุดิบหลักในผลิตภัณฑ์ปลากระป๋อง
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงในช่วงหน้าร้อนนี้ ที่อาจจส่งผลกระทบต่อสินค้าภาคการเกษตร ที่อาจจะส่งผลต่อราคาต้นทุนของสินค้าภาคการเกษตรว่าจะมีการราคาขึ้นนั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยขณะนี้ในส่วนของโครงการหลวงที่เราดูแลอยู่ ปัจจุบันยังคงรับซื้อและช่วยเหลือเกษตรกร โดยยังคงให้ราคาที่เท่าเดิม ไม่ได้มีการปรับเพิ่มแต่อย่างไร
“ประเด็นการปรับราคาสินค้าภาคการเกษตรนั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะถ้ามีการปรับราคาขึ้นแล้ว จะทำให้เราไม่สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ จะยิ่งเสียเปรียบทางการค้า ดังนั้นวิธีการปรับราคาขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยง ส่วนวิธีการที่ดีที่สุดที่ควรเร่งดำเนินการ คือ การมุ่งเพิ่มผลผลิตในพื้นที่เดิมให้มากที่สุด นั่นจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างแท้จริง โดยในส่วนของทางโครงการหลวงได้มุ่งส่งเสริมแนะวิธีการให้เกษตรกรได้รับความรู้ในการเพิ่มผลผลิตทางเกษตรเป็นหลัก หากรายใดสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ทางโครงการหลวงก็จะให้ราคารับซื้อที่ดีขึ้นตามไปด้วย”
ล่าสุดในส่วนของผลผลิตทางของมะเขือเทศนั้น ปัจจุบันประเทศจีนสามารถผลิตได้ 12-15 ตันต่อไร่ ขณะที่ไทยทำได้เพียง 3-4ตันต่อไร่ และหลังจากที่ทางโครงการหลวงได้ให้ความรู้แก่เกษตรกรแล้ว มั่นใจว่าในปีนี้ จะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6ตันต่อไร่ นอกจากนี้ยังมุ่งทำคอนเทคฟาร์มให้มากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญเพื่อเป็นตัวกลางในการรับซื้อผลผลิตจากภาคเกษตรกรให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดยังได้ร่วมกับปลากระป๋องซีเล็ค ในการป้อนมะขือเทศทั้งหมดให้เพื่อเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ปลาซาดีลในซอลมะเขือเทศ ตั้งแต่ในช่วงนี้เป็นต้นไป ขณะที่ในปีนี้คาดว่า ผลผลิตของมะเขือเทศจากทางโครงการหลวงนั้น จะทำได้ที่ 1,000 ตัน
นายพิพัฒพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามช่วงปีที่ผ่านมา ทางบริษัทยังได้ทุ่มงบกว่า 400 ล้านบาท สำหรับเพิ่มโรงงานหลังที่3 ขึ้น ที่แม่จัน บนพื้นที่ราว 700-1,000 ไร่ เพื่อใช้สำหรับ การแปรรูปผลไม้อบแห้งจากเกษตรภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง มะตูม และฝรั่งเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปผลไม้แช่แข็ง เช่น หม่อนเบอรี่แช่แข็ง การแพ็คข้าวฮาง และการผลิตน้ำผักและผลไม้กระป๋อง เช่น น้ำมะเขือเทศกระป๋อง เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.นี้ เป็นต้นไป
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงในช่วงหน้าร้อนนี้ ที่อาจจส่งผลกระทบต่อสินค้าภาคการเกษตร ที่อาจจะส่งผลต่อราคาต้นทุนของสินค้าภาคการเกษตรว่าจะมีการราคาขึ้นนั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยขณะนี้ในส่วนของโครงการหลวงที่เราดูแลอยู่ ปัจจุบันยังคงรับซื้อและช่วยเหลือเกษตรกร โดยยังคงให้ราคาที่เท่าเดิม ไม่ได้มีการปรับเพิ่มแต่อย่างไร
“ประเด็นการปรับราคาสินค้าภาคการเกษตรนั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะถ้ามีการปรับราคาขึ้นแล้ว จะทำให้เราไม่สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ จะยิ่งเสียเปรียบทางการค้า ดังนั้นวิธีการปรับราคาขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยง ส่วนวิธีการที่ดีที่สุดที่ควรเร่งดำเนินการ คือ การมุ่งเพิ่มผลผลิตในพื้นที่เดิมให้มากที่สุด นั่นจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างแท้จริง โดยในส่วนของทางโครงการหลวงได้มุ่งส่งเสริมแนะวิธีการให้เกษตรกรได้รับความรู้ในการเพิ่มผลผลิตทางเกษตรเป็นหลัก หากรายใดสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ทางโครงการหลวงก็จะให้ราคารับซื้อที่ดีขึ้นตามไปด้วย”
ล่าสุดในส่วนของผลผลิตทางของมะเขือเทศนั้น ปัจจุบันประเทศจีนสามารถผลิตได้ 12-15 ตันต่อไร่ ขณะที่ไทยทำได้เพียง 3-4ตันต่อไร่ และหลังจากที่ทางโครงการหลวงได้ให้ความรู้แก่เกษตรกรแล้ว มั่นใจว่าในปีนี้ จะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6ตันต่อไร่ นอกจากนี้ยังมุ่งทำคอนเทคฟาร์มให้มากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญเพื่อเป็นตัวกลางในการรับซื้อผลผลิตจากภาคเกษตรกรให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดยังได้ร่วมกับปลากระป๋องซีเล็ค ในการป้อนมะขือเทศทั้งหมดให้เพื่อเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ปลาซาดีลในซอลมะเขือเทศ ตั้งแต่ในช่วงนี้เป็นต้นไป ขณะที่ในปีนี้คาดว่า ผลผลิตของมะเขือเทศจากทางโครงการหลวงนั้น จะทำได้ที่ 1,000 ตัน
นายพิพัฒพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามช่วงปีที่ผ่านมา ทางบริษัทยังได้ทุ่มงบกว่า 400 ล้านบาท สำหรับเพิ่มโรงงานหลังที่3 ขึ้น ที่แม่จัน บนพื้นที่ราว 700-1,000 ไร่ เพื่อใช้สำหรับ การแปรรูปผลไม้อบแห้งจากเกษตรภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง มะตูม และฝรั่งเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปผลไม้แช่แข็ง เช่น หม่อนเบอรี่แช่แข็ง การแพ็คข้าวฮาง และการผลิตน้ำผักและผลไม้กระป๋อง เช่น น้ำมะเขือเทศกระป๋อง เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.นี้ เป็นต้นไป
