“คมนาคม” เตรียมเก็บ VAT ทางด่วน 7% “จารุพงศ์” ยอมรับ กทพ.แบกภาระขาดทุนมานานถึง 20 ปี คิดเป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้าน สามารถนำไปสร้างทางด่วนใหม่ได้ถึง 24 กม. พร้อมเร่งรัดให้ยกเลิกมัดจำบัตรอีซี่พาส 800 บาท คาดเพิ่มยอดผู้ใช้บริการอื้อ
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงเรื่องการยกเลิกการจัดเก็บค่ามัดจำบัตรอีซี่พาส จำนวน 800 บาท โดยยอมรับว่า เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งมองว่า การยกเลิกการจัดเก็บค่ามัดจำบัตรอีซี่พาส 800 บาท ช่วยให้ประชาชนหันมาใช้บัตรอีซี่พาส ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และควรเพิ่มทางเลือกในการเติมเงินบัตรอีซี่พาส จากวิธีการเติมเงินที่ร้านสะดวกซื้อแล้ว ควรจะเพิ่มบริการ การหักเงินจากบัญชีธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ
สำหรับการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารและคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 (วานนี้) นายจารุพงศ์ ยอมรับว่า ตนเองได้ให้ไปพิจารณาแนวทางการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หลังจากที่ผ่านมา กทพ.ต้องแบกรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มในทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 แทนผู้ใช้ทางมานานถึง 20 ปี ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 12,000 ล้านบาท หากนำเงินตรงนี้ไปสร้างทางด่วนเส้นใหม่ได้ถึง 24 กิโลเมตร
“ผมได้ให้ กทพ.และบอร์ดไปดูว่า ที่ผ่านมา กทพ.ต้องแบกรับภาระ 700-800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งต้องไปศึกษาหากมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งดำเนินการต้องทำอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อาจเป็นการทยอยปรับขึ้นรวมไปกับค่าผ่านทาง ซึ่งคาดว่า แนวทางการเรียกเก็บค่าภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และจะไม่ให้กระทบต่อประชาชน ผมไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง แต่ไม่อยากให้ลืมเรื่องนี้”
นอกจากนี้ ยังเร่งรัดในการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ใต้ทางด่วน ซึ่งได้มีการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนา โดยได้ว่าจ้างคณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษา รวมถึงให้ความสำคัญแก่การสร้างทางด่วนในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่เพียงพอ
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการ กทพ.กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกเลิกการเก็บเงินค่ามัดจำบัตรอีซี่พาส จำนวน 800 บาท จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้ถึงเท่าตัว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเอกชนแน่นอน เนื่องจากเงินดังกล่าว เป็นเงินค่าประกันบัตร และในปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาถึงความเป็นไปได้ ซึ่งคาดว่า น่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือน
