ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงการท่องเที่ยว ดันเชียงใหม่ เจ้าภาพจัดประชุม ท่องเที่ยวโลก พ.ค.นี้ จัด 3 เส้นทาง กรีนโปรดักส์ พาผู้นำเที่ยวชม หวังอวดความสมบูรณ์และความพร้อมในสินค้าและบริการของไทย คุยผู้นำระดับรัฐมนตรีของหลายประเทศ สนใจที่จะเดินทางมาด้วยตัวเอง
นางธนิฎฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด หอการค้า ตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงใหม่ ตัวแทนจากสวนสัตว์เปิด ไนท์ซาฟารี เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ประชุมร่วมคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียใต้ ครั้งที่ 24 (24th Joint Meeting UNWTO Commission for East Asia and the Pacific and UNWTO Commission for South Asia) หรือการประชุมท่องเที่ยวโลก ระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค.55 ด้วยงบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี วงเงิน 8 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2555 เพื่อใช้ดำเนินงาน ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทาง แต่ละประเทศออกค่าใช้จ่ายกันเอง
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว โดยในการประชุม ปีก่อน ที่ประเทศ ศรีลังการ มี 2 ประเทศ ที่เสนอตัวเข้าชิงเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ คือ อินโดนีเซีย และ ไทย ซึ่งที่ประชุมสมาชิกกว่า 30 ประเทศ ร่วมโหวตให้ประเทศไทย ชนะเป็นเจ้าภาพจัดงานปีนี้ อีกทั้งยังมีผู้นำระดับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยว มากกว่า 5 ประเทศแสดงความสนใจ ที่จะเข้าร่วมประชุมในปีนี้ จากปกติ ทุกปีที่จัดในประเทศอื่นๆ จะมีระดับรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพียง 3-4 ประเทศ ที่เหลือ เป็นตัวแทนรัฐมนตรีและผู้บริหารในองค์กรท่องเที่ยว (NTO)
“เป็นครั้งแรกที่ไทยได้จัดงานนี้ เพราะช่วงเกิดสึนามิ UNWTO ก็มาจัดประชุมที่ประเทศไทย แต่เป็นการประชุมเฉพาะกิจ ไม่ได้ตามวาระ ซึ่งหากครั้งนี้มีรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมประชุมได้ 5 ประเทศขึ้นไป ถือว่าไทยประสบความสำเร็จ เป็นเดสติเนชั่น ที่ระดับผู้นำก็สนใจที่จะเดินทางเข้ามา โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ท่องเที่ยวสีเขียว หรือ กรีนทัวริสซึ่ม ตามที่ UNWTO เป็นผู้กำหนด ไทยจึงได้เสนอพื้นที่จัดงานที่เชียงใหม่ ซึ่งเหมาะสมกว่าเดสติเนชันอื่น ทั้งนี้ การได้รับเลือกจัดงานนี้ ดำเนินงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ไม่ได้ผ่าน สสปน.เพราะการประชุมระดับรัฐมนตรี จะไม่ติดต่อผ่านหน่วยงานใดแต่จะประสานตรง”
รูปแบบการจัดงานที่เตรียมไว้ เบื้องต้น มีเรื่องของการวสัมมมนาว่าด้วยการท่องเที่ยวโลก ภายใต้แนวคิด การท่องเที่ยวเที่ยวสีเขียว หรือ กรีนทัวริสซึม ซึ่งกำหนดโดย UNWTO และวันสุดท้าย จัด นำเที่ยวแก่ผู้นำที่ร่วมประชุม โดยเตรียมไว้ 3 เส้นทาง ระดับกรีนโปรดักส์ คือ 1.เส้นทางโครงการพระราชดำริ ห้วงฮ่องไคร้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 2.ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่กำปองการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชุมชน และ 3.เส้นทางดอยสุเทพและสวนสัตว์เชียงใหม่ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวแมนเมด ที่กลมกลืนกับชุมชน
นางธนิฎฐา กล่าวว่า งานประชุมดังกล่าว คาดว่าจะมีผู้นำระดับรัฐบมนตรีและ ผู้บริหารองค์กร พร้อมผู้ติดตาม มาร่วมประชุม ราว 150-200 คน ทุกคนล้วนมาจากหน่วยงานด้าน NTO มีมุมมองและความคิดด้านการท่องเที่ยว ตลอดจน มีศักยภาพด้านการจับจ่าย และมีอำนาจตัดสินใจ โดยตรง ซึ่งอยู่ระหว่างหารือ เพื่อทำหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม
อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้ เป็นการประชุมด้านการท่องเที่ยวในเวทีระดับโลก ได้การยอมรับจากนานาประเทศ เป็นเวทีที่รวมสมาชิกของ 2 ภูมิภาค คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ภูมิภาคเอเชียใต้ รวมถึงเป็นการรวมตัวขององค์กรการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ และสื่อด้านการท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ซึ่งไทยจะได้ใช้โอกาสจากการจัดประชุมครั้งนี้ เป็นเวที จัดประชุมเชิงวิชาการ และหารือระหว่างประเทศในกรอบความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพ และสร้างเครือข่ายการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และแปซิฟิก รวมทั้งสร้างเครือข่ายการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และภูมิภาคอื่น
นางธนิฎฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด หอการค้า ตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงใหม่ ตัวแทนจากสวนสัตว์เปิด ไนท์ซาฟารี เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ประชุมร่วมคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียใต้ ครั้งที่ 24 (24th Joint Meeting UNWTO Commission for East Asia and the Pacific and UNWTO Commission for South Asia) หรือการประชุมท่องเที่ยวโลก ระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค.55 ด้วยงบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี วงเงิน 8 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2555 เพื่อใช้ดำเนินงาน ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทาง แต่ละประเทศออกค่าใช้จ่ายกันเอง
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว โดยในการประชุม ปีก่อน ที่ประเทศ ศรีลังการ มี 2 ประเทศ ที่เสนอตัวเข้าชิงเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ คือ อินโดนีเซีย และ ไทย ซึ่งที่ประชุมสมาชิกกว่า 30 ประเทศ ร่วมโหวตให้ประเทศไทย ชนะเป็นเจ้าภาพจัดงานปีนี้ อีกทั้งยังมีผู้นำระดับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยว มากกว่า 5 ประเทศแสดงความสนใจ ที่จะเข้าร่วมประชุมในปีนี้ จากปกติ ทุกปีที่จัดในประเทศอื่นๆ จะมีระดับรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพียง 3-4 ประเทศ ที่เหลือ เป็นตัวแทนรัฐมนตรีและผู้บริหารในองค์กรท่องเที่ยว (NTO)
“เป็นครั้งแรกที่ไทยได้จัดงานนี้ เพราะช่วงเกิดสึนามิ UNWTO ก็มาจัดประชุมที่ประเทศไทย แต่เป็นการประชุมเฉพาะกิจ ไม่ได้ตามวาระ ซึ่งหากครั้งนี้มีรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมประชุมได้ 5 ประเทศขึ้นไป ถือว่าไทยประสบความสำเร็จ เป็นเดสติเนชั่น ที่ระดับผู้นำก็สนใจที่จะเดินทางเข้ามา โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ท่องเที่ยวสีเขียว หรือ กรีนทัวริสซึ่ม ตามที่ UNWTO เป็นผู้กำหนด ไทยจึงได้เสนอพื้นที่จัดงานที่เชียงใหม่ ซึ่งเหมาะสมกว่าเดสติเนชันอื่น ทั้งนี้ การได้รับเลือกจัดงานนี้ ดำเนินงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ไม่ได้ผ่าน สสปน.เพราะการประชุมระดับรัฐมนตรี จะไม่ติดต่อผ่านหน่วยงานใดแต่จะประสานตรง”
รูปแบบการจัดงานที่เตรียมไว้ เบื้องต้น มีเรื่องของการวสัมมมนาว่าด้วยการท่องเที่ยวโลก ภายใต้แนวคิด การท่องเที่ยวเที่ยวสีเขียว หรือ กรีนทัวริสซึม ซึ่งกำหนดโดย UNWTO และวันสุดท้าย จัด นำเที่ยวแก่ผู้นำที่ร่วมประชุม โดยเตรียมไว้ 3 เส้นทาง ระดับกรีนโปรดักส์ คือ 1.เส้นทางโครงการพระราชดำริ ห้วงฮ่องไคร้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 2.ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่กำปองการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชุมชน และ 3.เส้นทางดอยสุเทพและสวนสัตว์เชียงใหม่ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวแมนเมด ที่กลมกลืนกับชุมชน
นางธนิฎฐา กล่าวว่า งานประชุมดังกล่าว คาดว่าจะมีผู้นำระดับรัฐบมนตรีและ ผู้บริหารองค์กร พร้อมผู้ติดตาม มาร่วมประชุม ราว 150-200 คน ทุกคนล้วนมาจากหน่วยงานด้าน NTO มีมุมมองและความคิดด้านการท่องเที่ยว ตลอดจน มีศักยภาพด้านการจับจ่าย และมีอำนาจตัดสินใจ โดยตรง ซึ่งอยู่ระหว่างหารือ เพื่อทำหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม
อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้ เป็นการประชุมด้านการท่องเที่ยวในเวทีระดับโลก ได้การยอมรับจากนานาประเทศ เป็นเวทีที่รวมสมาชิกของ 2 ภูมิภาค คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ภูมิภาคเอเชียใต้ รวมถึงเป็นการรวมตัวขององค์กรการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ และสื่อด้านการท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ซึ่งไทยจะได้ใช้โอกาสจากการจัดประชุมครั้งนี้ เป็นเวที จัดประชุมเชิงวิชาการ และหารือระหว่างประเทศในกรอบความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพ และสร้างเครือข่ายการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และแปซิฟิก รวมทั้งสร้างเครือข่ายการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และภูมิภาคอื่น