โพล เผยผลสำรวจ นัก ศศ.มอง ศก.ไทย ต่ำสุดรอบ 18 เดือน แต่เชื่อปรับดีขึ้นในอีก 6 เดือน จากลงทุน ทั้งภาครัฐ-เอกชน ช่วยหนุนฟื้นตัว
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 72 คน เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 17-24 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา เรื่องดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า โดยพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 28.41 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานะอ่อนแอ
นอกจากนี้ ค่าดัชนีฯ ในระดับดังกล่าว ยังเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเชื่อมั่นในด้านการส่งออกสินค้า การลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ลดลงเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงดังกล่าวได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2554 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การส่งออกสินค้า และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ในช่วงเดือนมกราคม 2555 มีการประกาศเตือนภัยก่อการร้ายของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอีกต่อหนึ่ง
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับ 63.41 และเมื่อมองออกไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 72.19 ซึ่งค่าดัชนีฯ ที่ระดับดังกล่าวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
สำหรับปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญใน 3-6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ อันดับที่ 1 การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ อันดับที่ 2 การบริโภคภาคเอกชน อันดับที่ 3 การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ อันดับที่ 4 การลงทุนภาคเอกชน
ส่วนการส่งออกนั้นแม้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ถือเป็นปัจจัยที่มีบทบาทต่อการขับเคลื่อนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ อีก 4 ปัจจัย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใดที่ทำให้มองว่าจะเป็นตัวทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง