“ซีทีบีวี” หรือที่คุ้นเคยกันในนาม “โคลัมเบีย ไทรสตาร์ บัวนา วิสต้า” ค่ายผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศคุณภาพ ผู้นำความบันเทิงระดับโลก วอลท์ ดิสนีย์ และโซนี่ ฉลองครบรอบ 15 ปี ประกาศเปลี่ยนชื่อจดทะเบียนจากเดิม เป็น บริษัทโซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด( Sony Pictures Releasing Walt Disney Studios( Thailand ) Ltd. ) หรือ “เอส ดี ที”( S D T )
ทั้งนี้ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ การดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่ใน สหรัฐอเมริกา พร้อมประกาศก้าวขึ้นปีที่ 16 ด้วยคาราวานภาพยนตร์คุณภาพ กว่า 20 เรื่อง ใน ปี 2012 รวมถึงการเปิดตัว 9 ภาพยนตร์ ระดับบล๊อกบัสเตอร์และเมกะบล๊อกบัสเตอร์ฟอร์มโต เพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำตลาดการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายยอดรายได้บ๊อกซ์ออฟฟิศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 พันล้านบาท( หนึ่งพันสองร้อยล้านบาท )
นายรชต ธีระบุตร กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัทโซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวในโอกาสที่บริษัทฯได้ดำเนินกิจการนำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในประเทศไทยมาครบ 15 ปี นับจากวันที่บริษัทฯก่อตั้งในประเทศไทยมา ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 1997 (ปี พศ 2540) ภายใต้ชื่อ โคลัมเบีย ไทรสตาร์ บัวนา วิสต้า หรือ ซีทีบีวี โดยเป็นการจดทะเบียนร่วมทุนกันระหว่าง โซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกในเครือ โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ของ ญี่ปุ่น และ วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ โมชั่น พิคเจอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ คอมปานี ในสหรัฐอเมริกา โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่นำเข้ามาฉายภายใต้ค่ายซีทีบีวี คือ The Mirror Has Two Faces สองดวงใจสะท้อนรัก ของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส และ Metro เจรจาก่อนจับตาย ของ ทัชสโตน พิคเจอร์ส
นายรชต กล่าวว่า "ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ค่ายซีทีบีวี ได้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไปแล้วทั้งสิ้น 342 เรื่อง มียอดรายได้บ๊อกซ์ บิลลิ่ง กว่า 9,900 ล้านบาท ในขณะที่ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่ายซีทีบีวี ได้แก่ 2012 วันสิ้นโลก ที่กวาดรายได้ไปเกือบ 240 ล้านบาท และครองสถิติภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดที่เป็นแบบ non-3D ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแฟรนไชส์ภาพยนตร์ระดับฟอร์มยักษ์ ที่ติดอันดับบนตารางท๊อปเท็นบ๊อกซ์ ออฟฟิศ ตลอดกาลของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Spider-man ไอ้แมงมุม, Pirates of the Caribbean คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก, James Bond 007 พยัคฆ์ร้าย 007, Terminator คนเหล็ก, National Treasure ปฎิบัติการล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก และ Underworld สงครามโค่นพันธุ์อสูร"
"ในปี 2012 บริษัท ภายใต้ชื่อจดทะเบียนใหม่ จากโคลัมเบีย ไทรสตาร์ บัวนา วิสต้า หรือ “ซีทีบีวี” มาเป็นโซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ หรือ “เอสดีที” โดยนำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในสังกัดของโซนี่ พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภายใต้แบนเนอร์ของ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ,ไทรสตาร์ พิคเจอร์ส , สกรีนเจมส์ พิคเจอร์ส และ เมโทร โกลด์วิน เมเจอร์ พิคเจอร์ส ในขณะที่ของวอลท์ ดิสนีย์ ก็จะดูแลและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ภายใต้แบนเนอร์ วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส ,ทัชสโตน พิคเจอร์ส ,ดรีมเวิร์คส์ พิคเจอร์ส ตลอดจนถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นจาก พิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ และภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในสังกัด มาร์เวล สตูดิโอด้วย"
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ ทั้งที่จัดฉายในระบบ 4 มิติ, 3 มิติ, ไอแม็กซ์ และ ฟิล์ม 35 มม โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดรายได้ บ๊อกซ์ ออฟฟิศ บิ่ลลิ่งทั่วประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทที่ 1.2 พันล้านบาท นายรชต กล่าวในตอนท้าย