”ชุมพล”เพิ่งตื่น ไฟเขียว โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว”วัชระ กรรณิการ์” นำทีมเอกชนจากส่วนกลาง ลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวปราบมาเฟีย จัดระเบียบดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว นำร่อง ภูเก็ต แห่งแรก หลัง ข่าว ปลาวาฬ อิสระ นักธุรกิจดัง ถูกแทงในผับ หวั่งกระทบภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว ยันไม่ข้ามหน้าการเมืองท้องถิ่น แต่เน้นทำงานร่วมกัน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะนำภาคเอกชนท่องเที่ยว ร่วมเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูล รับฟังปัญหาและอุปสรรค ที่จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นประเทศไทย โดยจะนำข้อมูลที่ได้มา นำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนท่องเที่ยว หรือ กรอ. ท่องเที่ยว ที่จะถึงนี้ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ มีการร้องเรียนจากเอกชนในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต และ การร้องเรียนของนักท่องเที่ยว ถึง ปัญหามากมายที่เกิดขึ้น เช่น ความวุ่นวายของ โต๊ะ เตียงผ้าใบและร่วมชายหาด ที่ทำให้ดูไม่สวยงาม นักท่องเที่ยวขาดความเป็นส่วนตัว ปัญหารถแท๊กซี่โก่งราคาค่าโดยสาร ปัญหา มาเฟียเจ็ทสกี และ มาเฟียอื่นๆ ตามสถานบันเทิง ปัญหาการจราจร ปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว และล่าสุด เหตุการที่ นายวรสิทธิ อิสสระ หรือปลาวาฬ ผู้บริหารศรีพันวา บุตรชาย นายสงกรานต์ และนาง ศรีวรา อิสสระ ถูกแทงในผับ ซึ่งสะท้อนภาพ ความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
“กระทรวงได้ จดหมายร้องเรียนจำนวนมากจากนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ถึง ปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งตรงกันกับ ข้อมูล ที่ผู้ประกอบการจากสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ยื่นเสนอมา จึงได้นำเสนอ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และมีแผนที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว พอมามีกรณี นายปลาวาฬ นายชุมพล จึงให้ ผม นำทีมภาคเอกชน ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาพส่วน ร่วมทำงานแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของไทย ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ได้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวแต่อย่างใด ”
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีดหลายพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีปัญหาอาชกรรม และการหลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่ง กระทรวง จะร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ ครั้งนี้ นำร่อง ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก จากนั้น จะเดินสายลงพื้นที่ จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ สมุย และ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น โดยทุกแหล่งท่องเที่ยวต้องมีแผน ด้านการรักษาและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน หาก สิ่งที่เกิดขึ้นเกินอำนาจหน้าที่ของกระทรวง ก็จะเสนอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงมหาดไทย เข้าช่วยกันทำงาน โดยภูเก็ต ถือเป็น เวิลด์คลาสเดสติเนชั่น แต่มีร้องเรียกปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องรีบจัดระเบียบโดยเร็ว
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะนำภาคเอกชนท่องเที่ยว ร่วมเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูล รับฟังปัญหาและอุปสรรค ที่จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นประเทศไทย โดยจะนำข้อมูลที่ได้มา นำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนท่องเที่ยว หรือ กรอ. ท่องเที่ยว ที่จะถึงนี้ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ มีการร้องเรียนจากเอกชนในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต และ การร้องเรียนของนักท่องเที่ยว ถึง ปัญหามากมายที่เกิดขึ้น เช่น ความวุ่นวายของ โต๊ะ เตียงผ้าใบและร่วมชายหาด ที่ทำให้ดูไม่สวยงาม นักท่องเที่ยวขาดความเป็นส่วนตัว ปัญหารถแท๊กซี่โก่งราคาค่าโดยสาร ปัญหา มาเฟียเจ็ทสกี และ มาเฟียอื่นๆ ตามสถานบันเทิง ปัญหาการจราจร ปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว และล่าสุด เหตุการที่ นายวรสิทธิ อิสสระ หรือปลาวาฬ ผู้บริหารศรีพันวา บุตรชาย นายสงกรานต์ และนาง ศรีวรา อิสสระ ถูกแทงในผับ ซึ่งสะท้อนภาพ ความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
“กระทรวงได้ จดหมายร้องเรียนจำนวนมากจากนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ถึง ปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งตรงกันกับ ข้อมูล ที่ผู้ประกอบการจากสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ยื่นเสนอมา จึงได้นำเสนอ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และมีแผนที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว พอมามีกรณี นายปลาวาฬ นายชุมพล จึงให้ ผม นำทีมภาคเอกชน ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาพส่วน ร่วมทำงานแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของไทย ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ได้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวแต่อย่างใด ”
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีดหลายพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีปัญหาอาชกรรม และการหลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่ง กระทรวง จะร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ ครั้งนี้ นำร่อง ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก จากนั้น จะเดินสายลงพื้นที่ จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ สมุย และ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น โดยทุกแหล่งท่องเที่ยวต้องมีแผน ด้านการรักษาและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน หาก สิ่งที่เกิดขึ้นเกินอำนาจหน้าที่ของกระทรวง ก็จะเสนอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงมหาดไทย เข้าช่วยกันทำงาน โดยภูเก็ต ถือเป็น เวิลด์คลาสเดสติเนชั่น แต่มีร้องเรียกปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องรีบจัดระเบียบโดยเร็ว
