กรมการค้าภายใน ติดเบรกผู้ผลิตสินค้าขอขึ้นราคา อ้างก๊าซ NGV-LPG แพง ชี้ มีสัดส่วนในการผลิตไม่ถึง 1% เตรียมกำหนดแนวทางดูแลราคาอาหารเป็นพิเศษ เหตุสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มผันผวน กระทบวัตถุดิบการผลิต เล็งฟื้นโครงการ รถเข็นธงฟ้าออกมาเป็นทางเลือกให้ ปชช.เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ พร้อมเคาะแนะนำอาหารปรุงสำเร็จ 20 เมนู อาทิ ข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่พะโล้ ข้าวไข่เจียว จานละไม่เกิน 25-35 บาท ในเดือน ม.ค.นี้ แต่ยอมรับ กดดันข้าวแกงให้ขายในราคาแนะนำได้ยาก ด้าน สคบ.กังขาบ้านน้ำท่วมไม่ได้มีการใช้ไฟ แต่มีบิลเรียกเก็บเงินมั่ว เตรียมเรียก กฟน.ชี้แจงข้อเท็จริง
นางผุสดี กำปั่นทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงความคืบหน้าในการดูแลราคาสินค้าแพง โดยยืนยันว่า กรมจะไม่พิจารณาให้ผู้ประกอบการสินค้าที่ขอปรับขึ้นราคาด้วยการอ้างต้นทุนผลิตสูงขึ้นจากการปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) และก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) โดยเฉพาะก๊าซเอ็นจีวีที่จะปรับราคาตามขั้นบันไดตลอดปี 2555 จนครบ 6 บาทต่อลิตร เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า เพราะต้นทุนส่วนใหญ่ที่กรมฯ จะอนุมัติให้ปรับราคาขึ้นหรือไม่ อยู่ที่ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตเป็นหลัก ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนสินค้ามากกว่า 80% ส่วนก๊าซเอ็นจีวีมีสัดส่วนของต้นทุนสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือไม่ถึง 20% ของภาคการขนส่ง และจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อทั้งปีไม่ถึง 1%
สำหรับสถานการณ์สินค้าปัจจุบัน ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดขอปรับราคาเข้ามา แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่าสินค้าแบตเตอรี่ สายไฟฟ้า และยางรถยนต์ มีแนวโน้มขอปรับราคาขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลกสูงขึ้น ทั้งทองแดง ดีบุก ยางพารา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งหนังสือยืนยันที่จะปรับขึ้นราคา รวมทั้งสินค้าข้าวสารบรรจุถุงที่คาดว่าจะทยอยปรับขึ้นราคาอีก 5-10% ด้วย
ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาแอลพีจี และก๊าซเอ็นจีวี ในอัตรา 3-6 บาทนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ศึกษา พบว่า จะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเพียง 0.05% แบ่งเป็นสองด้าน คือ ผลกระทบทางตรงต่อราคาสินค้าและบริการ โดยมีสินค้าที่จะได้รับผลกระทบรุนแรง 10 อันดับแรก ได้แก่ ปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ เพิ่มขึ้น 1.8-3.8% ท่อพีวีซี 1.2-2.7% พัดลมขนาด 12 นิ้ว เพิ่มขึ้น 1.0-2.1%
น้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 500 ซีซี เพิ่มขึ้น 1.0-2.1% ผงซักฟอกขนาด 1,000 กรัม เพิ่มขึ้น 0.7-1.5% กระดาษชำระบรรจุแพ็กเพิ่มขึ้น 0.8-1.8% กระดาษเช็ดหน้าบรรจุแพ็กเพิ่มขึ้น 0.6-1.3% กระดาษปรู๊ฟเพิ่มขึ้น 0.57-1.22% กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 0.47-0.99% และคอนกรีตบล็อกเพิ่มขึ้น 0.4-0.9%
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาอาหารปรุงสำเร็จนั้น กรมฯได้มีการศึกษาในประเด็นสำคัญต่างๆ ได้แก่ 1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จ 2.ทิศทางราคาอาหารปรุงสำเร็จ 3.ราคาอาหารปรุงสำเร็จในแต่ละพื้นที่ เช่น ฟู้ดคอร์ท ตลาดสด อาคารสำนักงาน ตึกแถวริมทาง พบว่า ในเบื้องต้นราคาอาหารปรุงสำเร็จได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งราคาวัตถุดิบในการผลิต การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค และภาวะเศรษฐกิจภายในและต่างประเทศ และเมื่อดูจากผลกระทบดังกล่าวย้อนหลังอาจจะต้องพิจารณาใช้ราคาปัจจัยในปี 2550 เป็นปีฐาน เพราะระดับราคาอยู่ในระดับปกติ
สำหรับปี 2551-2554 ภาวะเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน เช่น เศรษฐกิจในต่างประเทศตกต่ำ ภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม เป็นต้น ซึ่งจะได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดว่าเหมาะสมในการใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาด้านราคาอาหารปรุงสำเร็จหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดูแลประชาชนผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้ออาหารปรุงสำเร็จ ในปี 2555 กรมการค้าภายในจะได้ดูแลอาหารปรุงสำเร็จเป็นพิเศษ เพื่อกำหนดมาตรการในการเข้าไปกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จให้เป็นธรรมทั้งผู้ค้าและประชาชนผู้บริโภค การจัดทำเมนูธงฟ้า และรถเข็นธงฟ้า และกำหนดราคาแนะนำในแต่ละพื้นที่ เพราะจากการติดตามสถานการณ์อาหารปรุงสำเร็จที่ผ่านมาในช่วงปลายปี 2554 ราคาวัตถุดิบในการผลิต เช่น เนื้อหมู-ไก่ ไข่ไก่ ผัก มีบางช่วงปรับราคาสูงขึ้นและลดลงตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาด ในขณะที่ราคาอาหารปรุงสำเร็จ ปรับสูงขึ้นไม่สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลง
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เตรียมจัดทำราคาแนะนำอาหารสำเร็จรูป เพื่อใช้เป็นแนวทางดูแลราคาไม่ให้ปรับสูงเกินไป โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวอาหารปรุงสำเร็จอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคา ทิศทางราคาอาหารปรุงสำเร็จในแต่ละพื้นที่ เช่น ฟู้ดคอร์ต ตลาดสด อาคารสำนักงาน ตึกแถวริมทาง เพื่อกำหนดราคาแนะนำออกมาใช้ภายในเดือน ม.ค.นี้ เบื้องต้นจะมี 20 รายการที่ได้รับความนิยม เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวผัดกระเพรา ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น
“ยอมรับว่า การกำหนดราคาแนะนำคงไม่ได้บังคับให้ร้านอาหารต้องขายในราคาดังกล่าวตาม เป็นเพียงการแนะนำให้ประชาชนได้รู้ถึงราคาอาหารสำเร็จรูปเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารในร้านค้าที่ขายราคาเป็นธรรม”
นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เชิญการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้ามาหารือภายในสัปดาห์นี้ ถึงกรณีข้อร้องเรียนเรื่องการเรียกเก็บค่าใช้ไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วมเกินความเป็นจริง หลัง สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวจากผู้บริโภคหลายรายที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ทั้งที่ไม่มีการใช้ไฟฟ้าตลอดช่วงที่เกิดน้ำท่วม