บอร์ดบีโอไอ เคาะส่งเสริมการลงทุนใหม่รวดเดียว 18 โครงการ มูลค่าลงทุน 3 หมื่นล้าน พร้อมเอาใจอุตสาหกรรมจมน้ำ ขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้ให้โครงการเดิมที่ขอไว้เป็น 8 ปี เสมือนโครงการขอใหม่ พร้อมยกเว้นภาษี 200% ให้นิคมอุตสาหกรรมลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานป้องกันน้ำท่วม ระบุ ตัวเลขลงทุนขณะนี้ทะลุ 6 แสนล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 แสนล้านบาทแล้ว
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานได้เห็นชอบ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตน้ำท่วม ช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยแบ่งเป็น 2 มาตรการ ดังนี้
1.มาตรการทั่วไปสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายโดยตรง แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.1 โครงการที่ได้รับการส่งเสริมเดิม ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจำกัดวงเงินภาษีที่ยกเว้น ให้ถือเสมือนเป็นโครงการใหม่ได้สิทธิยกเว้นภาษี 8 ปี และโครงการดังกล่าวยังลงทุนในจังหวัดเดิมที่เกิดน้ำท่วมจะให้ได้รับการยกเว้นภาษีในอัตรา 150% ของเงินลงทุน แต่หากย้ายไปลงทุนจังหวัดอื่น จะได้รับการยกเว้นภาษีในอัตรา 100% ของเงินลงทุน
1.2 โครงการได้รับการส่งเสริมเดิมที่ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยไม่จำกัดภาษีที่ยกเว้น ให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเพิ่มจากสิทธิประโยชน์ที่เหลืออยู่ตามโครงการเดิมอีกไม่เกิน 3 ปี และรวมแล้วไม่เกิน 8 ปี
ส่วนมาตรการที่ 2 เป็นมาตรการสำหรับนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ได้รับความเสียหาย แต่มีการลงทุนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคเพื่อป้องกันอุทกภัย จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และขยายวงเงินยกเว้นภาษีจากเดิมไม่เกิน 100% เป็นไม่เกิน 200% ของเงินลงทุน
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ในปี 2555 คาดว่าจะมียอดขอส่งเสริมการลงทุน 600,000 ล้านบาท ซึ่งบีโอไอจะเร่งทำรายละเอียดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเน้นส่งเสริม รวมถึงการส่งเสริมกิจการไทยไปลงทุนต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บอร์ดยังได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนส่งท้ายปี 18 โครงการ เงินลงทุนเกือบ 30,000 ล้านบาท
