ASTVผู้จัดการรายวัน - ททท. ปิ๊งไอเดีย ทุ่ม 20 ล้านบาท จัดโครงการนำร่อง”ห้องรับแขกโลก” ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ภายหลังน้ำลด ชี้เป็นกิจกรรมในโครงการ มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์ หากผลตอบรับดี จะบรรจุในแผนงานประจำปี ขณะที่ กรมการท่องเที่ยว เตรียมปรับแก้ใบ ตม.6 เพิ่ม ภาษา รัสเซีย - จีน เอาใจ ตลาดดาวรุ่งใหม่
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการ “ห้องรับแขกโลก” เพื่อแสดงความจริงใจในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงฟื้นตัวภายหลังน้ำท่วมได้ลดลงสู่ภาวะปรกติ โครงการนี้ จะเป็นเหมือนตัวแทนของ ททท.และ คนไทยที่พร้อมดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจตั้งแต่เดินทางถึงประเทสไทยที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า โครงการ”ห้องรับแขกโลก” หรือ Thailand welcomes the world จะเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์ โดย ททท. จะใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท จากงบฟื้นฟูท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด ที่ ททท.เสนอขอไปทั้งสิ้นรวม 2,800 ล้านบาท ระยะโครงการ 8 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.55 จุดประสงโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
***จ้างเจ้าหน้าที่ 70 คนดูแลนักท่องเที่ยว 24 ช.ม.***
รายละเอียดโครงการ ททท.จะจัดจ้างพนักงาน 70 -75 คน ทำงาน 3 กะ ต่อวัน เฉลี่ยกะละ 25 คน โดยเจ้าหน้าที่ จะต้องมีความรู้อย่างน้อย 3 ภาษา คือ จีน อังกฤษ และ ญี่ปุ่น เพื่อคอยให้บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รูปแบบการทำงาน ได้แก่ การช่วยจัดระเบียบแถวที่รอตรวจเอกสารก่อนเข้าเมือง , ช่วยกรอกเอกสารและเตรียมเอกสารในกรณีที่นักท่องเที่ยวมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการเองได้ บริการรถกอล์ฟ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีปัญหาการเดิน และนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมด จะต้องผ่านการอบรมด้านการบริการ ให้เข้าใจถึงหัวใจของการบริการ โดยททท.จะจัดฝึกอบรมให้
นอกจากนั้นจะใช้เงินส่วนหนึ่ง จัดซื้อฮาร์ดแวร์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ อินเทอร์เน็ต ไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อติดต่อสื่อสารกับทัวร์ หรือผู้ที่จะมารับ ก่อนออกจากด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้บริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตลอดจนการแจกเอกสารแนะนำแหล่งท่องเที่ยยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนเครื่อง เผื่อจะแวะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงรอ หรือ ในคราวต่อไป
“งานนี้จะเป็นโครงการนำร่องในการดูแลนักท่องเที่ยวใ ห้เกิดความประทับใจเมื่องมาถึงประเทศไทย แต่หากได้ผลตอบรับที่ดี แต่ไม่มีหน่วยงานใด สานต่อ ททท.ก็อาจพิจารณาจัดเป็นโครงการที่อยู่ในแผนประจำปี “ นายประกิตติ์ กล่าว
***แก้ ตม.6 เอาใจรัสเซีย-จีน***
ทางด้านนายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีคำสั่งจากนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ศึกษาแนวทางการปรับปรุงรูปแบบใบ ตม.6 ซึ่งเป็นเอกสาร ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องกรอกข้อมูลทุกครั้งก่อนที่จะผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โดยการปรับปรุงครั้งนี้เพื่อต้องการเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ให้สามารถผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองได้เร็วขึ้น สร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าสู่ประเทศไทย
สำหรับวิธีการ เบื้องต้น จะนำแบบฟอร์ม ตม.6 ของหลายๆประเทศมาใช้เป็นแนวทาง อย่างแรกที่ต้องปรับ คือ ภาษาที่ต้องมีให้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะ ชาติที่เป็นตลาดหลักของไทย เช่น จีน รัสเซีย ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ นับจากนี้ไปถึงอนาคต โดยมีการเติบโตตลาดละ 30-50% ในปีนี้ ซึ่งปัจจุบัน ตม.6 มีเพียงอังกฤษกับภาษาไทย เท่านั้น เมื่อเสร็จแล้วจะนำไปหารือกับหน่วยงานที่มีอำนาจดูแลเรื่องการจัดพิมพ์ใบตม. 6
นายสุพล กล่าวอีกว่า แผนการทำงานของกรมฯในปีหน้า จะเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก นอกเหนือจากการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดำเนินการภายใต้ โครงการ สาด แสง สี เสียง เช่น โครงการสีสันสดใสเมืองไทยน่าเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์อาคารและแหล่งท่องเที่ยวด้วยการทาสี วาดภาพจิตรกรรม และนำหัตถกรรมท้องถิ่นมาตกแต่ง โดยจะดำเนินการทันทีที่ได้รับงบประมาณปี 2555 จะเริ่มตั้งแต่ เม.ย.-พ.ค.55
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการ “ห้องรับแขกโลก” เพื่อแสดงความจริงใจในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงฟื้นตัวภายหลังน้ำท่วมได้ลดลงสู่ภาวะปรกติ โครงการนี้ จะเป็นเหมือนตัวแทนของ ททท.และ คนไทยที่พร้อมดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจตั้งแต่เดินทางถึงประเทสไทยที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า โครงการ”ห้องรับแขกโลก” หรือ Thailand welcomes the world จะเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์ โดย ททท. จะใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท จากงบฟื้นฟูท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด ที่ ททท.เสนอขอไปทั้งสิ้นรวม 2,800 ล้านบาท ระยะโครงการ 8 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.55 จุดประสงโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
***จ้างเจ้าหน้าที่ 70 คนดูแลนักท่องเที่ยว 24 ช.ม.***
รายละเอียดโครงการ ททท.จะจัดจ้างพนักงาน 70 -75 คน ทำงาน 3 กะ ต่อวัน เฉลี่ยกะละ 25 คน โดยเจ้าหน้าที่ จะต้องมีความรู้อย่างน้อย 3 ภาษา คือ จีน อังกฤษ และ ญี่ปุ่น เพื่อคอยให้บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รูปแบบการทำงาน ได้แก่ การช่วยจัดระเบียบแถวที่รอตรวจเอกสารก่อนเข้าเมือง , ช่วยกรอกเอกสารและเตรียมเอกสารในกรณีที่นักท่องเที่ยวมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการเองได้ บริการรถกอล์ฟ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีปัญหาการเดิน และนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมด จะต้องผ่านการอบรมด้านการบริการ ให้เข้าใจถึงหัวใจของการบริการ โดยททท.จะจัดฝึกอบรมให้
นอกจากนั้นจะใช้เงินส่วนหนึ่ง จัดซื้อฮาร์ดแวร์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ อินเทอร์เน็ต ไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อติดต่อสื่อสารกับทัวร์ หรือผู้ที่จะมารับ ก่อนออกจากด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้บริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตลอดจนการแจกเอกสารแนะนำแหล่งท่องเที่ยยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนเครื่อง เผื่อจะแวะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงรอ หรือ ในคราวต่อไป
“งานนี้จะเป็นโครงการนำร่องในการดูแลนักท่องเที่ยวใ ห้เกิดความประทับใจเมื่องมาถึงประเทศไทย แต่หากได้ผลตอบรับที่ดี แต่ไม่มีหน่วยงานใด สานต่อ ททท.ก็อาจพิจารณาจัดเป็นโครงการที่อยู่ในแผนประจำปี “ นายประกิตติ์ กล่าว
***แก้ ตม.6 เอาใจรัสเซีย-จีน***
ทางด้านนายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีคำสั่งจากนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ศึกษาแนวทางการปรับปรุงรูปแบบใบ ตม.6 ซึ่งเป็นเอกสาร ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องกรอกข้อมูลทุกครั้งก่อนที่จะผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โดยการปรับปรุงครั้งนี้เพื่อต้องการเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ให้สามารถผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองได้เร็วขึ้น สร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าสู่ประเทศไทย
สำหรับวิธีการ เบื้องต้น จะนำแบบฟอร์ม ตม.6 ของหลายๆประเทศมาใช้เป็นแนวทาง อย่างแรกที่ต้องปรับ คือ ภาษาที่ต้องมีให้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะ ชาติที่เป็นตลาดหลักของไทย เช่น จีน รัสเซีย ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ นับจากนี้ไปถึงอนาคต โดยมีการเติบโตตลาดละ 30-50% ในปีนี้ ซึ่งปัจจุบัน ตม.6 มีเพียงอังกฤษกับภาษาไทย เท่านั้น เมื่อเสร็จแล้วจะนำไปหารือกับหน่วยงานที่มีอำนาจดูแลเรื่องการจัดพิมพ์ใบตม. 6
นายสุพล กล่าวอีกว่า แผนการทำงานของกรมฯในปีหน้า จะเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก นอกเหนือจากการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดำเนินการภายใต้ โครงการ สาด แสง สี เสียง เช่น โครงการสีสันสดใสเมืองไทยน่าเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์อาคารและแหล่งท่องเที่ยวด้วยการทาสี วาดภาพจิตรกรรม และนำหัตถกรรมท้องถิ่นมาตกแต่ง โดยจะดำเนินการทันทีที่ได้รับงบประมาณปี 2555 จะเริ่มตั้งแต่ เม.ย.-พ.ค.55