กรมสรรพสามิต มั่นใจระบบ GPS บอกตำแหน่งเรือ ช่วยป้องกันลักลอบขายน้ำมันเขียวได้มีประสิทธิภาพ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสสินค้าหนีภาษี
นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า โครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร (โครงการน้ำมันเขียว) ให้กับเรือประมงขนาดใหญ่ในราคาที่ต่ำกว่าราคาน้ำมันที่จำหน่ายอยู่บนบก เป็นอีกหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับน้ำมันเขียวเป็นการผสมสารมาร์กเกอร์สีเขียว (Marker) ลงไปในน้ำมันดีเซลจำหน่ายผ่านเรือสถานีบริการน้ำมัน (Tanker) ที่ลอยลำอยู่ในเขตต่อเนื่องห่างจากฝั่ง 12-24 ไมล์ทะเล
“ราคาน้ำมันเขียวที่จำหน่ายแก่เรือประมงนั้นถูกกว่าบนบกถึงกว่า 10 บาท/ลิตร เนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม และเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมัน โครงการดังกล่าวจึงช่วยลดการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากต่างประเทศเข้ามาขายได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งระยะทางในการไปเติมน้ำมันเขียวที่เรือ แทงเกอร์นั้นใกล้กว่าเรือน้ำมันเถื่อนค่อนข้างมาก” นายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม รองอธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาขายของน้ำมันเขียวที่ต่ำกว่าราคาตลาด อาจเป็นแรงจูงใจให้เกิดการลักลอบนำน้ำมันดังกล่าวมาจำหน่ายนอกเขต 12-24 ไมล์ทะเล ทางกรมสรรพสามิตจึงนำระบบติดตามบอกตำแหน่ง GPS มาติดตั้งที่เรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อติดตามเส้นทางเดินเรือ พร้อมทั้งระบุตำแหน่งการจอดเรือจำหน่ายน้ำมันเขียว ทั้งนี้ ทางกรมสรรพสามิตได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิตทำการตรวจสอบพฤติกรรมการเดินเรือและตำแหน่งของเรือตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา มีมติ ครม.ให้ทางกรมสรรพสามิตเป็นที่ตั้งเครือข่ายหลักด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากประชาชนทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า โครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร (โครงการน้ำมันเขียว) ให้กับเรือประมงขนาดใหญ่ในราคาที่ต่ำกว่าราคาน้ำมันที่จำหน่ายอยู่บนบก เป็นอีกหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับน้ำมันเขียวเป็นการผสมสารมาร์กเกอร์สีเขียว (Marker) ลงไปในน้ำมันดีเซลจำหน่ายผ่านเรือสถานีบริการน้ำมัน (Tanker) ที่ลอยลำอยู่ในเขตต่อเนื่องห่างจากฝั่ง 12-24 ไมล์ทะเล
“ราคาน้ำมันเขียวที่จำหน่ายแก่เรือประมงนั้นถูกกว่าบนบกถึงกว่า 10 บาท/ลิตร เนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม และเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมัน โครงการดังกล่าวจึงช่วยลดการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากต่างประเทศเข้ามาขายได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งระยะทางในการไปเติมน้ำมันเขียวที่เรือ แทงเกอร์นั้นใกล้กว่าเรือน้ำมันเถื่อนค่อนข้างมาก” นายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม รองอธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาขายของน้ำมันเขียวที่ต่ำกว่าราคาตลาด อาจเป็นแรงจูงใจให้เกิดการลักลอบนำน้ำมันดังกล่าวมาจำหน่ายนอกเขต 12-24 ไมล์ทะเล ทางกรมสรรพสามิตจึงนำระบบติดตามบอกตำแหน่ง GPS มาติดตั้งที่เรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อติดตามเส้นทางเดินเรือ พร้อมทั้งระบุตำแหน่งการจอดเรือจำหน่ายน้ำมันเขียว ทั้งนี้ ทางกรมสรรพสามิตได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิตทำการตรวจสอบพฤติกรรมการเดินเรือและตำแหน่งของเรือตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา มีมติ ครม.ให้ทางกรมสรรพสามิตเป็นที่ตั้งเครือข่ายหลักด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากประชาชนทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง