“พีซีเอส” โอดน้ำท่วมหนักรายได้หายไปเกือบ 20 ล้านบาทช่วง 2 เดือนมหาอุทกภัยนี้ พร้อมปรับแผนงาน ดึงพันธมิตรธุรกิจลุยธุรกิจฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์หลังน้ำลด รองรับการรีโนเวตครั้งใหญ่ หวังดันรายได้รวมตามเป้าหมายยเดิม 4,000 ล้านบาท
นายธนา ถิรมนัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอพเพอร์ตี้ แคร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีซีเอส ผู้ให้บริการด้านการดูแลอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯพอสมควร เพราะไม่สามารถให้บริการในหลายพื้นที่ที่ต้องประสบภัยน่ำวมใหญ่ครั้งนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม และโครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมาก
ทั้งนี้บริษัทฯต้องสูญเสียโอกาสทางธุรกิจอย่างมาก โดยรายได้เดือนตุลาคม หายไปประมาฯ 10 ล้านบาท รวมทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้อีกที่คาดว่าจะหายไป 10 ล้านบาทเช่นกัน รวมเกือบ 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีความมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะยังคงทำรายได้รวมประมาณ 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8% ได้ตามเป้าหมาย จากแผนการปรับตัวทางธุรกิจที่จะช่วยผลักดันให้รายได้กลับมาตามเดิม
นายธนากล่าวถึงการปรับแผนธุรกิจใหม่ว่า ล่าสุดบริษัทได้จับมือร่วมกับพันธมิตรภาคธุรกิจในหลายประเภทเปิดตัวธุรกิจบริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากภายหลังที่เหตุการณ์น้ำท่วมลดลงเข้าสู่ภาวะปรกติแล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือนที่อยู่อาศัย หมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน โรงงานต่างๆ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ เป็นต้น
โดยขอบข่ายของการให้บริการจะมีทั้งการให้คำปรึกษา การจัดการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมอแบบครบรบวงจร ประกอบด้วย การประเมินความเสียหาย , การกำหนดแผนฟื้นฟู , การกำหนดงบประมาณ และการทำงานควบคู่กับลูกค้า
นายธนากล่าวว่า การดำเนินงานในเบื้องต้นนี้จะมีทั้งการก่อสร้าง การซ่อมแซม การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และการรักษาความปลอดภัย โดยมีบริษัทในเครือหลายแห่งที่ดำเนินการแต่ละธุรกิจเข้ามาดูแลเช่น พีซีเอส ผู้ให้บริการในส่วนของแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย และคนสวน , โคมิน เอเชีย ผู้ให้บริการงานระบบ ประปา และไฟฟ้า และแคนนอน ไฮยีน ผู้ให้บริการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค, แคนนอน เพส ผู้ให้บริการด้านการกำจัดแมลง เป็นต้น
กลุ่มเป้าหมายหลักของบริการยังคงเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม, นิคมอุตสาหกรรม, เจ้าของธุรกิจต่างๆ, ศูนย์การค้า, โครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของพีซีเอสอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีการประเมินกันว่า กลุ่มโรงงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 700-800 รายทั่วประเทศ โดยมากกว่า 100 ราย เป็นลูกค้าของพีซีเอส รองลงมา คือ กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดรองดังกล่าวให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
“การให้บริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์หลังจากภัยพิบัติ หลายประเทศเริ่มมีให้บริการกันแล้ว และได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการของหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น หลังการเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 11 ก.ย.2544 ในสหรัฐอเมริกา หรือเหตุการณ์พายุถล่มหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าบริการใหม่ของพีซีเอสจะเป็นที่ตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปในประเทศไทยเช่นกัน” นายธนากล่าว
นายธนา ถิรมนัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอพเพอร์ตี้ แคร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีซีเอส ผู้ให้บริการด้านการดูแลอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯพอสมควร เพราะไม่สามารถให้บริการในหลายพื้นที่ที่ต้องประสบภัยน่ำวมใหญ่ครั้งนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม และโครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมาก
ทั้งนี้บริษัทฯต้องสูญเสียโอกาสทางธุรกิจอย่างมาก โดยรายได้เดือนตุลาคม หายไปประมาฯ 10 ล้านบาท รวมทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้อีกที่คาดว่าจะหายไป 10 ล้านบาทเช่นกัน รวมเกือบ 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีความมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะยังคงทำรายได้รวมประมาณ 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8% ได้ตามเป้าหมาย จากแผนการปรับตัวทางธุรกิจที่จะช่วยผลักดันให้รายได้กลับมาตามเดิม
นายธนากล่าวถึงการปรับแผนธุรกิจใหม่ว่า ล่าสุดบริษัทได้จับมือร่วมกับพันธมิตรภาคธุรกิจในหลายประเภทเปิดตัวธุรกิจบริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากภายหลังที่เหตุการณ์น้ำท่วมลดลงเข้าสู่ภาวะปรกติแล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือนที่อยู่อาศัย หมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน โรงงานต่างๆ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ เป็นต้น
โดยขอบข่ายของการให้บริการจะมีทั้งการให้คำปรึกษา การจัดการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมอแบบครบรบวงจร ประกอบด้วย การประเมินความเสียหาย , การกำหนดแผนฟื้นฟู , การกำหนดงบประมาณ และการทำงานควบคู่กับลูกค้า
นายธนากล่าวว่า การดำเนินงานในเบื้องต้นนี้จะมีทั้งการก่อสร้าง การซ่อมแซม การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และการรักษาความปลอดภัย โดยมีบริษัทในเครือหลายแห่งที่ดำเนินการแต่ละธุรกิจเข้ามาดูแลเช่น พีซีเอส ผู้ให้บริการในส่วนของแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย และคนสวน , โคมิน เอเชีย ผู้ให้บริการงานระบบ ประปา และไฟฟ้า และแคนนอน ไฮยีน ผู้ให้บริการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค, แคนนอน เพส ผู้ให้บริการด้านการกำจัดแมลง เป็นต้น
กลุ่มเป้าหมายหลักของบริการยังคงเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม, นิคมอุตสาหกรรม, เจ้าของธุรกิจต่างๆ, ศูนย์การค้า, โครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของพีซีเอสอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีการประเมินกันว่า กลุ่มโรงงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 700-800 รายทั่วประเทศ โดยมากกว่า 100 ราย เป็นลูกค้าของพีซีเอส รองลงมา คือ กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดรองดังกล่าวให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
“การให้บริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์หลังจากภัยพิบัติ หลายประเทศเริ่มมีให้บริการกันแล้ว และได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการของหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น หลังการเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 11 ก.ย.2544 ในสหรัฐอเมริกา หรือเหตุการณ์พายุถล่มหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าบริการใหม่ของพีซีเอสจะเป็นที่ตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปในประเทศไทยเช่นกัน” นายธนากล่าว