ASTVผู้จัดการรายวัน - “คมนาคม” ชง ครม.ยกเว้นค่าผ่านทางด่วนของ กทพ.เพิ่มอีก 3 สาย ช่วยสัญจรในเมืองหลังน้ำท่วมเส้นทาง กทม.ชั้นในหลายสาย ประเมินสูญรายได้เพิ่มอีกวันละ 32 ล้านบาท ขณะที่ กทพ.ต้องรับภาระชดเชยให้ บีอีซีแอล และ เอ็นอีซีแอล ตามสัญญาสัมปทานประมาณ 40%
วันที่ 7 พ.ย. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรุ่งนี้ (8 พ.ย.) กระทรวงคมนาคม จะเสนอ ครม.ขอยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษที่อยู่ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การสัญจรทางถนนปกติไม่สามารถเดินทางได้
รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม.ขออนุมัติการยกเว้นค่าผ่านทางด่วนเพิ่มเติมอีก 3 สาย ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1), ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) และทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 9 พ.ย.เวลา 24.00 น.วันที่ 20 พ.ย.2554 ส่วนก่อนหน้านี้ กทพ.ได้มีการยกเว้นค่าผ่านทางไปแล้ว 3 สาย คือ ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จนถึง 24.00 น.วันที่ 14 พ.ย.54
รายงานข่าวแจ้งว่า โดยเฉลี่ยทางด่วนทั้งระบบจะมีปริมาณจราจรประมาณ 1.4-1.5 ล้านคันต่อวัน โดยมีรายได้จาก 5 สายทางประมาณ 47 ล้านบาทต่อวัน โดยทางด่วนขั้นที่ 1, 2 และอุดรรัถยา มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 32 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งตามสัญญาสัมปทานระหว่าง กทพ.กับ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กำหนดแบ่งสัดส่วนรายได้สำหรับทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ส่วน A (รัชดาภิเษก-พระราม 9) และส่วน B (ต่างระดับพญาไท-บางโคล่) ระหว่าง กทพ.และ บีอีซีแอล ที่ 60:40 ส่วนทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน C (เชื่อมจากส่วน A-ถนนแจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี) และส่วน D (พระราม 9-ศรีนครินทร์) รายได้เป็นของบีอีซีแอล 100% รวมถึง ทางพิเศษอุดรรัถยา ซึ่งบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (เอ็นอีซีแอล) เป็นผู้รับสัมปทาน
