ยศยาคลินิก โดดขึ้นสังเวียนศัลยกรรมความงาม ทุ่มงบ กว่า 30 ล้านบาท นำร่องสาขาแรกที่รัชดา ชูกลยุทธ์ราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 50%
นางสาวกานต์ณพิชญ์ กุณามา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” กล่าวว่า ตลาดศัลยกรรมในไทยปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 20,000 ล้านบาท และยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราคนไทยยอมรับมากขึ้น ประกอบกับกระแสของเค-ป๊อปและวัฒนธรรมบันเทิงที่มาจากประเทศเกาหลี เป็นตัวกระตุ้นให้สังคมไทยหันมานิยมทำศัลยกรรมมากขึ้น และแนวโน้มของผู้ที่เริ่มทำศัลยกรรมมีอายุน้อยลง จากเดิม 18 ปีขึ้นไป มาเป็นตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ยศยาคลินิก จึงลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เปิดสาขาแรกที่ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา สาเหตุที่เลือกทำเลนี้เป็นสาขาแรกเพราะ ศักยภาพของทำเลย่านรัชดาภิเษกเป็นย่านที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก มีอาคารสำนักงาน บริษัท
ห้างร้าน ตลอดจนสถานศึกษาและสถานบันเทิงจำนวนมาก และคาดว่าจะทำรายได้ 15 ล้านบาทในปีนี้ โดยตั้งงบตลาดไว้ที่ 5 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางหลักๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค
ภายใน 1-2 ปีนี้ คลินิกมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 แห่ง
เล็งพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นสาขาที่เน้นการทำทรีตเมนต์ต่างๆ พร้อมกับเป็นสาขาหน้าร้านที่จะเรียกลูกค้าทำศัลยกรรมกลุ่มใหม่ให้มาใช้บริการที่สาขาแรก คาดว่าจะใช้งบอีก 5-10 ล้านบาทต่อสาขา
กลยุทธ์ของยศยาคลินิก คือราคาการให้บริการที่ต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 50% เมื่อเทียบกับค่าบริการทำศัลยกรรมประเภทเดียวกันของคู่แข่ง เช่น การทำจมูก เทคนิคเกาหลี มีราคาที่ 30,000 บาท ขณะที่คู่แข่งที่จับลูกค้าระดับบีบวกถึงมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 55,000 บาท ซึ่งจะเน้นราคาต่ำว่าคู่แข่งอย่างน้อย 3 ปี เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์และแนะนำฝีมือแพทย์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างก่อน ผ่านการบอกต่อของลูกค้าเป็นหลัก เพราะปัจจัยแรกที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจทำศัลยกรรม คือ ความเชื่อมั่นในตัวแพทย์ ที่มาจากการบอกต่อของคนใกล้ชิด โดย ราคา และ สถานที่เป็นปัจจัยรองลงมาตามลำดับ เพราะในแต่ละปีไทยสามารถผลิตแพทย์ที่จบสาขาศัลยแพทย์ตกแต่งเพียงจำนวนประมาณ 12-15 คน ทำให้ปัจจุบันมีแพทย์กลุ่มนี้เพียง 250 - 300 คน ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดศัลยกรรมที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีที่มาแรงนี้ ทางยศยาคลินิกก็ถือเป็นจุดขายสำคัญอีกอย่างเพราะได้ส่งศัลยแพทย์ตกแต่งไปเรียนรู้และอบรมเพิ่มเติมกับ ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ประเทศเกาหลี เรานำเข้าวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆทางด้านศัลยกรรมมาจากเกาหลี เพราะต้องยอมรับว่านวัตกรรมและเครื่องไม้เครื่องมือของเกาหลีมีคุณภาพ บางอย่างมีต้นทุนสูงกว่าที่นำเข้าจากยุโรปและอเมริกา แต่สามารถเข้ากับคนเอเชียได้ดีกว่า เช่นซิลิโคนสำหรับทำจมูก เป็นต้น
นางสาวกานต์ณพิชญ์ กุณามา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” กล่าวว่า ตลาดศัลยกรรมในไทยปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 20,000 ล้านบาท และยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราคนไทยยอมรับมากขึ้น ประกอบกับกระแสของเค-ป๊อปและวัฒนธรรมบันเทิงที่มาจากประเทศเกาหลี เป็นตัวกระตุ้นให้สังคมไทยหันมานิยมทำศัลยกรรมมากขึ้น และแนวโน้มของผู้ที่เริ่มทำศัลยกรรมมีอายุน้อยลง จากเดิม 18 ปีขึ้นไป มาเป็นตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ยศยาคลินิก จึงลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เปิดสาขาแรกที่ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา สาเหตุที่เลือกทำเลนี้เป็นสาขาแรกเพราะ ศักยภาพของทำเลย่านรัชดาภิเษกเป็นย่านที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก มีอาคารสำนักงาน บริษัท
ห้างร้าน ตลอดจนสถานศึกษาและสถานบันเทิงจำนวนมาก และคาดว่าจะทำรายได้ 15 ล้านบาทในปีนี้ โดยตั้งงบตลาดไว้ที่ 5 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางหลักๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค
ภายใน 1-2 ปีนี้ คลินิกมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 แห่ง
เล็งพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นสาขาที่เน้นการทำทรีตเมนต์ต่างๆ พร้อมกับเป็นสาขาหน้าร้านที่จะเรียกลูกค้าทำศัลยกรรมกลุ่มใหม่ให้มาใช้บริการที่สาขาแรก คาดว่าจะใช้งบอีก 5-10 ล้านบาทต่อสาขา
กลยุทธ์ของยศยาคลินิก คือราคาการให้บริการที่ต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 50% เมื่อเทียบกับค่าบริการทำศัลยกรรมประเภทเดียวกันของคู่แข่ง เช่น การทำจมูก เทคนิคเกาหลี มีราคาที่ 30,000 บาท ขณะที่คู่แข่งที่จับลูกค้าระดับบีบวกถึงมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 55,000 บาท ซึ่งจะเน้นราคาต่ำว่าคู่แข่งอย่างน้อย 3 ปี เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์และแนะนำฝีมือแพทย์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างก่อน ผ่านการบอกต่อของลูกค้าเป็นหลัก เพราะปัจจัยแรกที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจทำศัลยกรรม คือ ความเชื่อมั่นในตัวแพทย์ ที่มาจากการบอกต่อของคนใกล้ชิด โดย ราคา และ สถานที่เป็นปัจจัยรองลงมาตามลำดับ เพราะในแต่ละปีไทยสามารถผลิตแพทย์ที่จบสาขาศัลยแพทย์ตกแต่งเพียงจำนวนประมาณ 12-15 คน ทำให้ปัจจุบันมีแพทย์กลุ่มนี้เพียง 250 - 300 คน ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดศัลยกรรมที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีที่มาแรงนี้ ทางยศยาคลินิกก็ถือเป็นจุดขายสำคัญอีกอย่างเพราะได้ส่งศัลยแพทย์ตกแต่งไปเรียนรู้และอบรมเพิ่มเติมกับ ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ประเทศเกาหลี เรานำเข้าวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆทางด้านศัลยกรรมมาจากเกาหลี เพราะต้องยอมรับว่านวัตกรรมและเครื่องไม้เครื่องมือของเกาหลีมีคุณภาพ บางอย่างมีต้นทุนสูงกว่าที่นำเข้าจากยุโรปและอเมริกา แต่สามารถเข้ากับคนเอเชียได้ดีกว่า เช่นซิลิโคนสำหรับทำจมูก เป็นต้น
