xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดททท.ไฟเขียว ของบ8.4พันล.ปี55 ยอมรับเป้าหมาย30ล้านคนสุดเอื้อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ด ททท.ไฟเขียว ยื่นของบปี 55 ตัวเลขเดิม ที่ 8.4 พันล้านบาท โต 60% จากปีนี้ ระบุคิดรวมกิจกรรมกระตุ้นในโครงการ มิราเคิล ไทยแลนด์เยียร์ ตามแถลงการณ์รัฐบาลแล้ว ยอมรับเป้าหมาย 30 ล้านคนสุดเอื้อม ทำได้แต่ต้องโหมกิจกรรมหนัก เหตุตามแผนยุทธศาสตร์ททท. ปี 2558 จะได้ 25 ล้านคน แต่30 ล้านคน จะได้ในปี 2560

นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) ททท. เห็นชอบให้เสนอขอวงเงินงบประมาณประจำปี 2555 ต่อรัฐบาลใหม่ในวงเงิน 8,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินเดิมที่ยื่นขอกับรัฐบาลชุดก่อน เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2554 ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณที่ 5,243 ล้านบาท โดยจะยื่นต่อสำนักงบประมาณภายใน 17 พ.ย.54

วงเงินที่เสนอขอดังกล่าว ได้รวมงบจัดกิจกรรม ที่จะใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ มหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิราเคิลไทยแลนด์ เยียร์) 600 ล้านบาท ตามแถลงการณ์ของรัฐบาล ที่ประกาศให้ปี 2554-2555 เป็นปีเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคล ในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนม์พรรษาครบ 84 พรรษา

“ตามแผนยุทธศาสตร์ การทำงานของ ททท. ในปี 2555 ยังคงใช้ธีม Amazing Thailand, Always Amazes You เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย ส่วนมิราเคิล ไทยแลนด์ จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตด้านการท่องเที่ยว นับจากนี้ไป โดยมีททท. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมดำเนินการ รับผิดชอบ ด้านการจัดเตรียมกิจกรรมส่งเสริม งานด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว”

***เป้า 30 ล้านคน ต้องโหมกิจกรรมเพิ่ม***
นายสุรพล กล่าวอีกว่า จากแถลงการณ์นโยบายการบริการราชการของรัฐบาล ที่จะผลักดันให้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน สร้างรายได้รวมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 ถือเป็นเป้าหมายที่ ททท.ต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษ เพราะจากการวิเคราะห์ของ ททท. ตามแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี ภายในปี 2558 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ 24-25 ล้านคน สร้างรายได้ 958,121 แสนล้านบาท

แต่หากจำนวน 30 ล้านคน จะต้องใช้เวลาอีก 2 ปี หรือราวปี 2560โดยบทวิเคราะห์ดังกล่าว มาจากการคำนวนบนสถานการณ์การท่องเที่ยวแบบปกติ ไม่มีปัจจัยลบใดมากระทบ ซึ่งจะมีการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยที่ปีละ 12 % ถือเป็นการเติบโตที่มากกว่า การเติบโตของตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย ที่องค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ UNWTOประเมินว่าจะเติบโตปีละ 6%

“เมื่อรัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้สูง ททท.ก็จะต้องเพิ่มความเข้มข้นและความถี่ของกิจกรรม เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้นก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะ 3-4 ปี ก่อน ททท.ใช้แผน recovery เพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการเมืองภายในประเทศ แต่ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายสู่ภาวะปกติ ททท.ก็จะใช้แผนสร้างการเติบโต โดยมุ่งรักษาตลาดเก่าขยายฐานตลาดใหม่ มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาด”

***ไทยมี“มิราเคิล”หลากหลาย***
อย่างไรก็ตาม สินค้าทางการท่องเที่ยวที่จะนำเสนอ ความเป็นมิราเคิล ของประเทศไทย มีมากมาย เริ่มตั้งแต่ ความเป็นหนึ่งเดียวในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มาถึงความหลากหลายของไทยฟู้ด ที่ติดอันดับโลก, แหล่งชอบปิ้ง เฉลี่ยแล้ว แกรนด์ เซลล์ ตลอดปี แหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย รวมถึงบริการสปา ที่เป็นสุดยอด เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ยังมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้จัก

สำหรับที่เป็นเป้าหมาย คือตลาดที่เป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ และเศรษฐกิจเติบโต ได้แก่ รัสเซีย อินเดีย จีน อิโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลี ส่วนตลาดใหม่ ที่จะขยายเพิ่มเติม ได้แก่ ประเทศในกลุ่มอาเซียน กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น คูเวต อิหร่าน กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก ส่วน ฐานตลาดเก่า จะเน้น การสร้างกิจกรรมใหม่ๆ ให้เกิดการมาซ้ำ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน

***ฟรีวีซ่าควรทำเพื่อเพิ่มความสะดวก***
นายสุรพล กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่รัฐบาลมุ่งหวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ตามตัวเลขที่กล่าวมา จะมีมีการจัดเตรียมความพร้อม ในหลายด้านเพื่อรองรับ เช่น ระบบคมนาคมขนส่ง การเพิ่มความสะดวกและลดความแออัดในสนามบิน การเตรียมความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ให้รองรับนักท่องเที่ยวได้โดยไม่ทำลายอัตลักษณ์และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น รวมถึงการวางระบบการรักษาความปลอดภัย สำหรับกรณีการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ถือว่ามีความจำเป็นต่อการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยว เพราะไม่ใช่เรื่องของความประหยัดเงินค่าทำวีซ่า ที่จะเป็นแรงจูงใจ แต่หมายถึง ความสะดวกที่นักท่องเที่ยวจะได้รับ เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปขอวีซ่า นั่นเป็นประเด็นที่สำคัญมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น