“อสมท” ทุ่ม 150 ล.บุกทีวีดาวเทียม พร้อมชะลอแผน บรอดแบนด์ทีวี เพราะต้องรอ กสทช.ชุดใหม่ อนุมัตินำเข้าอุปกรณ์ ด้านค่าย “อาร์เอส” ทุ่ม 50 ล้าน เพิ่มช่องใหม่ จับกลุ่มโจ๋ 13-25 ปี และกลุ่มลูกค้าหลัก
นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริทได้ชะลอแผนการให้บริการทีวีบรอดแบนด์ และโมบาย ทีวี ภายใต้ชื่อ “วิง ทีวี” จากเดิมจะทดลองให้บริการตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังจากรักษาการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่อนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์การรับสัญญาณเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ต้องรอ กสทช.ชุดใหม่
“การชะลอการให้บริการสร้างความเสียหายพอสมควร เพราะมีผู้สนใจสมัครสมาชิกเข้ามาประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งก็ต้องรอให้มี กสทช.ชุดใหม่ จึงจะอนุมัติให้นำเข้าอุปกรณ์ได้ และทาง อสมท ก็พร้อมที่จะให้บริการในทันที”
ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจสื่อใหม่ บริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อเช่าทรานสปอนเดอร์ เพิ่มอีก 1 ทรานสปอนเดอร์ ของดาวเทียมไทยคม 5 โดยช่องใหม่นี้จะนำมาออกอากาศสัญญาณทีวีดาวเทียมในระบบเคยู-แบนด์ (จานเล็ก) และให้บริการโทรทัศน์ระบบความคมชัดสูง หรือ เอชดี ทีวี (HD TV) โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาร์เอส และเนชั่น ในการผลิตรายการ
ปัจจุบัน อสมท ให้บริการช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียม รวม 10 ช่อง ทั้งผลิตเองและร่วมมือกับพันธมิตร สำหรับปีหน้าคาดว่าจะให้บริการเพิ่มเป็น 20 ช่อง โดยปีนี้ คาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อใหม่ จะมีสัดส่วน 5% ขณะที่รายได้หลักมาจากโทรทัศน์ 60% วิทยุ 15% สัมปทาน 10% โดยเป้าหมายต้องการให้รายได้จากธุรกิจสื่อใหม่เข้ามาทดแทนรายได้จากสัมปทานที่จะหมดสัญญาในอีก 10 ปีข้างหน้า
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่ คณะกรรมการมีมติให้ลงทุนในส่วนแรก ที่เรียกว่า เอ็มคอท ฮอลล์ มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ส่วน เอ็มคอท ทาวเวอร์ ที่เป็นทั้งศูนย์ออกอากาศ, โครงการที่อยู่อาศัย, การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เป็นโครงการระยะ 3-5 ปี โดยอสมทจะหาผู้ร่วมทุน หรือผู้เช่าพื้นที่บริหารมาดำเนินการ โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้รวม 1,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากโทรทัศน์และสื่อใหม่ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% รายได้จากวิทยุ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่มีกำไร 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%
น.ส.ภัทธิรา ปาลวัฒน์วิไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ย๊าค ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท ผลิตช่องย๊าค ทีวี (YAAK TV) เป็นทีวีดาวเทียมช่องที่ 4 ในเครืออาร์เอส เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่น อายุ 13-25 ปี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของธุรกิจเพลงในปัจจุบัน โดยศิลปินวัยรุ่นอาร์เอส มีแฟนคลับประจำทั่วประเทศ 3-4 ล้านคน
สำหรับช่องย๊าค ทีวี เริ่มออกอากาศ 1 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา มุ่งตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับของศิลปินอาร์เอส และกลุ่มเจ้าของสินค้าที่เป็นผู้สนับสนุน โดยเนื้อหารายการจะเป็นวาไรตี้ เกาะติดไลฟ์สไตล์ชีวิตของศิลปินอาร์เอสแบบเจาะลึกและเรียลไทม์ เริ่มจาก 5 ศิลปิน ได้แก่ ซี-ควินท์, ซี, รูกกี้ บีบี, เฟย์ฟางแก้ว และเค-โอติก
นอกจากนี้ จะมีรายการต่างๆ ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับช่องย๊าค เช่น โต๊ะข่าวปาปาย๊าคซี่ ที่ให้ศิลปินมาจัดรายการเม้าท์ศิลปินในค่ายเดียวกัน หรือโต๊ะข่าวเม้าท์ คลิป คลิป วิดีโอ ที่ให้ผู้ชมทางบ้านส่งเข้ามา เป็นต้น และในเฟส 2 จะเพิ่มรายการศิลปินคนอื่นๆ เข้าไป เช่น แนนซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ เป็นต้น และรายการต่างๆ จะครบสมบูรณ์ในเดือนม.ค.ปี2555
น.ส.ภัทธิรา กล่าวว่า ช่อง ย๊าค ทีวี จะเป็นช่องแรกที่เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อที่นิยมกลุ่มวัยรุ่น ทำให้ผู้ที่ใช้สื่อใหม่ดังกล่าว เข้ามารับชมรายการต่อเนื่องจากช่องทีวีดาวเทียม สร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับแฟนคลับและศิลปินในเครืออาร์เอส ส่งผลดีต่อเจ้าของสินค้าที่สนับสนุนในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับปีนี้ บริษัท ย๊าค วางเป้าหมายรายได้ 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30-40% โดยรายได้หลักมาจากการผลิตรายการทางฟรีทีวี จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ทีนพลัส โชว์, กามิกาเซ่ คลับ, เอเชี่ยน เคาน์ดาวน์, ม.แก็งค์ มันส์ทุก ม.และรายการบอยทอยส์ โดยในส่วนธุรกิจทีวีดาวเทียม ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 5-10 ล้านบาท และคุ้มทุนภายในกลางปีหน้า
นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริทได้ชะลอแผนการให้บริการทีวีบรอดแบนด์ และโมบาย ทีวี ภายใต้ชื่อ “วิง ทีวี” จากเดิมจะทดลองให้บริการตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังจากรักษาการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่อนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์การรับสัญญาณเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ต้องรอ กสทช.ชุดใหม่
“การชะลอการให้บริการสร้างความเสียหายพอสมควร เพราะมีผู้สนใจสมัครสมาชิกเข้ามาประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งก็ต้องรอให้มี กสทช.ชุดใหม่ จึงจะอนุมัติให้นำเข้าอุปกรณ์ได้ และทาง อสมท ก็พร้อมที่จะให้บริการในทันที”
ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจสื่อใหม่ บริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อเช่าทรานสปอนเดอร์ เพิ่มอีก 1 ทรานสปอนเดอร์ ของดาวเทียมไทยคม 5 โดยช่องใหม่นี้จะนำมาออกอากาศสัญญาณทีวีดาวเทียมในระบบเคยู-แบนด์ (จานเล็ก) และให้บริการโทรทัศน์ระบบความคมชัดสูง หรือ เอชดี ทีวี (HD TV) โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาร์เอส และเนชั่น ในการผลิตรายการ
ปัจจุบัน อสมท ให้บริการช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียม รวม 10 ช่อง ทั้งผลิตเองและร่วมมือกับพันธมิตร สำหรับปีหน้าคาดว่าจะให้บริการเพิ่มเป็น 20 ช่อง โดยปีนี้ คาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อใหม่ จะมีสัดส่วน 5% ขณะที่รายได้หลักมาจากโทรทัศน์ 60% วิทยุ 15% สัมปทาน 10% โดยเป้าหมายต้องการให้รายได้จากธุรกิจสื่อใหม่เข้ามาทดแทนรายได้จากสัมปทานที่จะหมดสัญญาในอีก 10 ปีข้างหน้า
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่ คณะกรรมการมีมติให้ลงทุนในส่วนแรก ที่เรียกว่า เอ็มคอท ฮอลล์ มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ส่วน เอ็มคอท ทาวเวอร์ ที่เป็นทั้งศูนย์ออกอากาศ, โครงการที่อยู่อาศัย, การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เป็นโครงการระยะ 3-5 ปี โดยอสมทจะหาผู้ร่วมทุน หรือผู้เช่าพื้นที่บริหารมาดำเนินการ โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้รวม 1,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากโทรทัศน์และสื่อใหม่ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% รายได้จากวิทยุ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่มีกำไร 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%
น.ส.ภัทธิรา ปาลวัฒน์วิไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ย๊าค ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท ผลิตช่องย๊าค ทีวี (YAAK TV) เป็นทีวีดาวเทียมช่องที่ 4 ในเครืออาร์เอส เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่น อายุ 13-25 ปี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของธุรกิจเพลงในปัจจุบัน โดยศิลปินวัยรุ่นอาร์เอส มีแฟนคลับประจำทั่วประเทศ 3-4 ล้านคน
สำหรับช่องย๊าค ทีวี เริ่มออกอากาศ 1 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา มุ่งตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับของศิลปินอาร์เอส และกลุ่มเจ้าของสินค้าที่เป็นผู้สนับสนุน โดยเนื้อหารายการจะเป็นวาไรตี้ เกาะติดไลฟ์สไตล์ชีวิตของศิลปินอาร์เอสแบบเจาะลึกและเรียลไทม์ เริ่มจาก 5 ศิลปิน ได้แก่ ซี-ควินท์, ซี, รูกกี้ บีบี, เฟย์ฟางแก้ว และเค-โอติก
นอกจากนี้ จะมีรายการต่างๆ ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับช่องย๊าค เช่น โต๊ะข่าวปาปาย๊าคซี่ ที่ให้ศิลปินมาจัดรายการเม้าท์ศิลปินในค่ายเดียวกัน หรือโต๊ะข่าวเม้าท์ คลิป คลิป วิดีโอ ที่ให้ผู้ชมทางบ้านส่งเข้ามา เป็นต้น และในเฟส 2 จะเพิ่มรายการศิลปินคนอื่นๆ เข้าไป เช่น แนนซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ เป็นต้น และรายการต่างๆ จะครบสมบูรณ์ในเดือนม.ค.ปี2555
น.ส.ภัทธิรา กล่าวว่า ช่อง ย๊าค ทีวี จะเป็นช่องแรกที่เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อที่นิยมกลุ่มวัยรุ่น ทำให้ผู้ที่ใช้สื่อใหม่ดังกล่าว เข้ามารับชมรายการต่อเนื่องจากช่องทีวีดาวเทียม สร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับแฟนคลับและศิลปินในเครืออาร์เอส ส่งผลดีต่อเจ้าของสินค้าที่สนับสนุนในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับปีนี้ บริษัท ย๊าค วางเป้าหมายรายได้ 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30-40% โดยรายได้หลักมาจากการผลิตรายการทางฟรีทีวี จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ทีนพลัส โชว์, กามิกาเซ่ คลับ, เอเชี่ยน เคาน์ดาวน์, ม.แก็งค์ มันส์ทุก ม.และรายการบอยทอยส์ โดยในส่วนธุรกิจทีวีดาวเทียม ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 5-10 ล้านบาท และคุ้มทุนภายในกลางปีหน้า