เป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของโลกเลยก็ว่าได้ที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวหรือเอสแอนด์พี ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จาก AAA มาเป็น AA+ เป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ตั้งแต่ปี 2484 พร้อมทั้งให้แนวโน้มเชิงลบ
เพียงชั่วข้ามคืนประธานาธิบดี บารัก โอบามาต้องถูกคู่แข่งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้ง นิวท์ กิงริช , ทิม พอว์เลนตี, และมิเชล บัคแมนน์ ออกมาวิจารณ์ความล้มเหลวของการบริหารงานของรัฐบาลซะเละ
แม้แต่ พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ยังได้วิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า กรณีนี้คือตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความบ้าของฝ่ายขวาจัด ที่ทำให้สหรัฐไม่มีความน่าเชื่อถือในระดับรากฐาน เขามองว่าถ้าไม่มีพวกรีพับลิกันสุดโต่งที่ต่อต้านการขึ้นภาษี ก็จะไม่เกิดปัญหากับข้อตกลงที่จะรับประกันความสามารถชำระหนี้ของสหรัฐในระยะยาว
ในความเป็นจริงแล้วทุกฝ่ายจะโทษแต่โอบามาก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเพราะปัญหาวิกฤติหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันเกิดจากการหมักหมมปัญหามาตั้งแต่อดีต แต่โชคร้ายที่โอบามาเข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่ฝีแตกพอดี ... แถมส.ส.พรรคฝ่ายค้ายังจี้ให้ ทิมโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งด้วย ... วุ่นวายกันถ้วนหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในรอบนี้ ...
จากวิกฤติสหรัฐฯ มาดูที่ประเทศไทยเราก็เปิดศึกขุ้นคลังกับว่าที่ขุนคลังขึ้นกับเขาเหมือนกัน
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ขุนคลังคนเก่า กรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ระบุว่า “ความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์กรอิสระในอนาคตจะเป็นอย่างไร หลังจากผู้มีอำนาจบริหารองค์กรรับใช้ฝ่ายการเมืองจนออกนอกหน้า แล้วได้รับการตอบแทนด้วยตำแหน่งรัฐมนตรี”
งานนี้เล่นเอาว่าที่ขุนคลังคนใหม่ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่เพิ่งยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ต้องรีบออกมาชี้แจงเป็นพัลวัน
โดย ธีระชัย ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala เนื้อหายาว 1 หน้ากระดาษ แต่โดยสรุปแล้วยืนยันว่าทำตามหน้าที่ ผ่านกระบวนการอันโปร่งใสและตรวจสอบได้อย่างแน่นอน
ขึ้นอยู่กับกองเชียร์และคนอ่านที่ติดตามว่าจะเชื่อฝ่ายไหน?
แต่สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในโลกใบนี้ก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋ ... คงไม่ต้องอธิบายขยายความมากไปกว่านี้แล้ว!
เปิดตลาดเช้าวันนี้ต้องจับตามองอย่างไม่กระพริบตาว่าตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกจะดิ่งเหวหลังจากที่เอสแอนด์พีปรับลดเรตติ้งสหรัฐฯ หรือไม่ หรือจะสวนทางเพราะรับข่าวไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วคงต้องลุ้นกันตัวโก่ง ... การลงทุนมีความเสี่ยง ควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ...
เพียงชั่วข้ามคืนประธานาธิบดี บารัก โอบามาต้องถูกคู่แข่งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้ง นิวท์ กิงริช , ทิม พอว์เลนตี, และมิเชล บัคแมนน์ ออกมาวิจารณ์ความล้มเหลวของการบริหารงานของรัฐบาลซะเละ
แม้แต่ พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ยังได้วิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า กรณีนี้คือตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความบ้าของฝ่ายขวาจัด ที่ทำให้สหรัฐไม่มีความน่าเชื่อถือในระดับรากฐาน เขามองว่าถ้าไม่มีพวกรีพับลิกันสุดโต่งที่ต่อต้านการขึ้นภาษี ก็จะไม่เกิดปัญหากับข้อตกลงที่จะรับประกันความสามารถชำระหนี้ของสหรัฐในระยะยาว
ในความเป็นจริงแล้วทุกฝ่ายจะโทษแต่โอบามาก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเพราะปัญหาวิกฤติหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันเกิดจากการหมักหมมปัญหามาตั้งแต่อดีต แต่โชคร้ายที่โอบามาเข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่ฝีแตกพอดี ... แถมส.ส.พรรคฝ่ายค้ายังจี้ให้ ทิมโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งด้วย ... วุ่นวายกันถ้วนหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในรอบนี้ ...
จากวิกฤติสหรัฐฯ มาดูที่ประเทศไทยเราก็เปิดศึกขุ้นคลังกับว่าที่ขุนคลังขึ้นกับเขาเหมือนกัน
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ขุนคลังคนเก่า กรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ระบุว่า “ความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์กรอิสระในอนาคตจะเป็นอย่างไร หลังจากผู้มีอำนาจบริหารองค์กรรับใช้ฝ่ายการเมืองจนออกนอกหน้า แล้วได้รับการตอบแทนด้วยตำแหน่งรัฐมนตรี”
งานนี้เล่นเอาว่าที่ขุนคลังคนใหม่ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่เพิ่งยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ต้องรีบออกมาชี้แจงเป็นพัลวัน
โดย ธีระชัย ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala เนื้อหายาว 1 หน้ากระดาษ แต่โดยสรุปแล้วยืนยันว่าทำตามหน้าที่ ผ่านกระบวนการอันโปร่งใสและตรวจสอบได้อย่างแน่นอน
ขึ้นอยู่กับกองเชียร์และคนอ่านที่ติดตามว่าจะเชื่อฝ่ายไหน?
แต่สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในโลกใบนี้ก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋ ... คงไม่ต้องอธิบายขยายความมากไปกว่านี้แล้ว!
เปิดตลาดเช้าวันนี้ต้องจับตามองอย่างไม่กระพริบตาว่าตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกจะดิ่งเหวหลังจากที่เอสแอนด์พีปรับลดเรตติ้งสหรัฐฯ หรือไม่ หรือจะสวนทางเพราะรับข่าวไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วคงต้องลุ้นกันตัวโก่ง ... การลงทุนมีความเสี่ยง ควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ...