“พาณิชย์” เดินหน้าจัดสัมมนา-เตรียมความพร้อม รองรับเขตการค้าเสรี “ไทย-อียู” และ “ไทย-อีเอฟทีเอ” เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องปรับตัวได้ทัน พร้อมปัดรับเงื่อนไข ส่งออกผัก 16 ชนิด เพราะเป็นการมัดมือชก เตรียมจี้ รบ.ใหม่ แก้ปัญหาจริงจัง
นายวีระชัย นพสุวรรณวงศ์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการจัดสัมมนาหัวข้อ “เตรียมพร้อมรองรับ ปรับตัว FTA ไทย-EU และไทย-EFTA” โดยระบุว่า เป็นการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้า และการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับภูมิภาคยุโรป ทั้งในกรอบไทยกับสหภาพยุโรป (EU) และไทยกับสมาคมการค้าแห่งยุโรป (EFTA) รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ อียูแสดงความสนใจที่จะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับไทย หลังจากการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีในกรอบอาเซียน-อียู หยุดลงเมื่อเดือนมีนาคม 2552 จากนั้น กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วน พร้อมทั้งดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบจากการจัดทำความตกลงการค้าเสรีในกรอบดังกล่าว มาจัดทำเป็นท่าทีการเจรจาของฝ่ายไทย และขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการภายใน สำหรับการเตรียมเสนอร่างกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับอียู ต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
นายวีระชัย ยอมรับว่า กรณีสหภาพยุโรป หรือ อียู ให้โอกาสไทยส่งออกผัก 16 ชนิดได้ แต่ต้องดูแลความปลอดภัยของผักทั้ง 16 ชนิด โดยอียูจะตรวจสอบรวม 5 ครั้ง ภายใน 1 ปี หากว่าพบสารปนเปื้อนครั้งใดครั้งหนึ่งไทยจะถูกสั่งห้ามถาวรนั้น เรื่องนี้ไทยคงไม่สามารถที่จะรับข้อเสนอดังกล่าวได้ เพราะมีความเสี่ยงมากจนเกินไป
นายวีระชัย กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังคงงดส่งออกผัก 16 ชนิดไปตลาดอียู และหลายฝ่ายกำลังเร่งแก้ไขปัญหา แต่หน้าที่หลักเป็นของกรมวิชาการเกษตรต้องส่งเสริมให้เกษตรกรดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต รวมทั้งให้สินค้าไทยผ่านการตรวจสอบรับรองจากองค์กรมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาจะต้องประกาศและดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้สินค้าอาหารไทยปลอดสารตกค้าง และมีสุขอนามัย เพื่อให้สามารถขยายตลาดพืชผักผลไม้ในต่างประเทศ รวมทั้งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในต่างประเทศด้วย
