กรมทรัพย์สินทางปัญญา เล็งของบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 50 ล้าน สร้างหนังไทยไฟต์ โปรโมตอุตสาหกรรมมวยไทย โรงเรียนมวยไทย ในจีน ชี้ เป็นตลาดใหม่ ช่วยขยายธุรกิจบริการเพิ่ม
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พิจารณาอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท สำหรับนำไปร่วมทุนจัดสร้างภาพยนตร์ ไทย ไฟต์ ระหว่างผู้สร้างหนังไทยกับจีน เพื่อประชาสัมพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไทย โดยเฉพาะธุรกิจมวยไทยให้เป็นรู้จักของชาวจีนนับพันล้านคน
“หากศิลปะมวยไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในจีนแล้ว เชื่อว่า จะก่อประโยชน์ทั้งในเชิงการเผยแพร่วัฒนธรรม และการขยายธุรกิจบริการมวยไทยไปต่างแดนอีกมาก ทั้งการโชว์ชกมวย หรือการเปิดโรงเรียนสอนมวยไทย ซึ่งตอนนี้คนจีนถือว่ายังรู้จักน้อย และเป็นตลาดใหญ่ที่น่าจะเร่งไปเผยแพร่ โดยใช้การสร้างภาพยนตร์ช่วยประชาสัมพันธ์ เพราะที่ผ่านมาธุรกิจมวยไทยได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ทั้งในยุโรปและอเมริกา มีเพียงตลาดจีนที่ยังรู้จักกันน้อยอยู่”
ทั้งนี้ คาดว่า สศช.จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเงินกองทุน เพื่อพิจารณาโครงการที่เสนอขอใช้งบกองทุนเร็วๆ นี้ เนื่องจากขณะนี้เงินกองทุนมีจำกัดเพียง 300 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่โครงการเสนอเข้ามาใช้เงินกองทุนเข้ามาถึง 37 โครงการ วงเงินมากกว่า 2,522 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซอฟแวร์ เพลง ออกแบบและดีไซน์ ดังนั้น คณะกรรมการฯ จะต้องพิจารณาว่า แต่ละโครงการเข้าข่ายเกณฑ์ที่กำหนด และโครงการใดที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศสูงสุด
นางปัจฉิมา กล่าวว่า เดิมกลุ่มสร้างภาพยนตร์ไทย ไฟต์ ได้ขอให้กรมเข้าไปสนับสนุนงบประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 30 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ร่วมทุนสำหรับการสร้างหนังเรื่องนี้ แต่กรมได้ชี้แจงว่า ไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ อีกทั้งกรมยังเป็นหน่วยงานราชการ จึงไม่มีหน้าที่เข้าไปร่วมทุนสร้างภาพยนตร์กับภาคเอกชนได้ ดังนั้น จึงต้องหาทางออกด้วยการขอใช้เงินจากกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์แทน แต่มีเงื่อนไขระบุว่า หากนำงบไปใช้และเกิดรายได้ขึ้นมา จะต้องนำมาคืนเข้ากองทุนเหมือนเดิม
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พิจารณาอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท สำหรับนำไปร่วมทุนจัดสร้างภาพยนตร์ ไทย ไฟต์ ระหว่างผู้สร้างหนังไทยกับจีน เพื่อประชาสัมพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไทย โดยเฉพาะธุรกิจมวยไทยให้เป็นรู้จักของชาวจีนนับพันล้านคน
“หากศิลปะมวยไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในจีนแล้ว เชื่อว่า จะก่อประโยชน์ทั้งในเชิงการเผยแพร่วัฒนธรรม และการขยายธุรกิจบริการมวยไทยไปต่างแดนอีกมาก ทั้งการโชว์ชกมวย หรือการเปิดโรงเรียนสอนมวยไทย ซึ่งตอนนี้คนจีนถือว่ายังรู้จักน้อย และเป็นตลาดใหญ่ที่น่าจะเร่งไปเผยแพร่ โดยใช้การสร้างภาพยนตร์ช่วยประชาสัมพันธ์ เพราะที่ผ่านมาธุรกิจมวยไทยได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ทั้งในยุโรปและอเมริกา มีเพียงตลาดจีนที่ยังรู้จักกันน้อยอยู่”
ทั้งนี้ คาดว่า สศช.จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเงินกองทุน เพื่อพิจารณาโครงการที่เสนอขอใช้งบกองทุนเร็วๆ นี้ เนื่องจากขณะนี้เงินกองทุนมีจำกัดเพียง 300 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่โครงการเสนอเข้ามาใช้เงินกองทุนเข้ามาถึง 37 โครงการ วงเงินมากกว่า 2,522 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซอฟแวร์ เพลง ออกแบบและดีไซน์ ดังนั้น คณะกรรมการฯ จะต้องพิจารณาว่า แต่ละโครงการเข้าข่ายเกณฑ์ที่กำหนด และโครงการใดที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศสูงสุด
นางปัจฉิมา กล่าวว่า เดิมกลุ่มสร้างภาพยนตร์ไทย ไฟต์ ได้ขอให้กรมเข้าไปสนับสนุนงบประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 30 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ร่วมทุนสำหรับการสร้างหนังเรื่องนี้ แต่กรมได้ชี้แจงว่า ไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ อีกทั้งกรมยังเป็นหน่วยงานราชการ จึงไม่มีหน้าที่เข้าไปร่วมทุนสร้างภาพยนตร์กับภาคเอกชนได้ ดังนั้น จึงต้องหาทางออกด้วยการขอใช้เงินจากกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์แทน แต่มีเงื่อนไขระบุว่า หากนำงบไปใช้และเกิดรายได้ขึ้นมา จะต้องนำมาคืนเข้ากองทุนเหมือนเดิม