xs
xsm
sm
md
lg

รร.เหนือมึนยอดร่วงอีก ผู้ประกอบการเร่งวอน ททท ช่วยแก้ปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธุรกิจโรงแรม เชียงใหม่ โลว์ซีซั่นปีนี้สุดเหงา อัตราเข้าพักเทียบปีก่อน ร่วงลงอีก เกือบ 10% สาเหตุจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และ เลือกตั้งในประเทศไทย วอนภาครัฐและ ททท.ช่วยโปรโมตเดสติเนชั่น เน้นแก้ปัญหาแบบระยะยาว หลังพบสถานกาณ์ธุรกิจซึมยาว 5 ปีติด ด้าน ททท.ยอมรับขนาดไตรมาสแรก เหนือยังโต 5% ไม้หวือหวา ขณะที่ บิ๊ก “ดุสิตธานี” ติงกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวภาคเหนือยังอ่อน

นายกนก สุวรรณวิสูตร ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ภาคเหนือ เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมภาคเหนือ โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ซบเซากว่าปีก่อน โดยมีอัตรเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 40% ลดลงจากปีก่อนอีกราว 10% โดยปีก่อนในช่วงเดียวกันนี้มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 46% ทั้งที่ปีก่อน มีปัญหาวิกฤตการเมืองด้วยซ้ำไป สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ น่าจะมาจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป ประกอบกับตลาดในประเทศก็อยู่ในช่วงเลือกตั้ง และเป็นช่วงฤดูโลว์ซีซั่น ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยลบที่ทำให้ท่องเที่ยวของเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือค่อนข้างเงียบเหงา และเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมา 4-5 ปีแล้ว

***วอนรัฐช่วยโปรโมต***
ทั้งนี้ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ควรเร่งวางนโยบายแก้ไขปัญหาโลว์ซีซั่น เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของภาคเหนือแบบระยะยาว ซึ่งการทำงานที่ผ่านมา มองว่า จะช่วยกระตุ้นเพียงครั้งคราวเท่านั้น โดยต้องการให้ ภาครัฐมาช่วยในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์และหาตลาดใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ได้มีโอกาสขยายตลาดต้อนรับลูกค้าต่างประเทศ และลูกค้าในประเทศได้เพิ่มขึ้น

“การโปรโมตเดสติเนชั่นเชียงใหม่ และอีกหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ออกสู่สายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ของภาครัฐและ ททท.ยังทำได้ไม่แข็งแรงพอ ขณะที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ซึ่งแม้จะร่วมมือกันทำตลาดบ้าง แต่ด้วยกำลังทุนที่มีน้อย จึงทำการโปรโมตได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่พอที่จะบุกเข้าหาผู้ซื้อในกรุงเทพฯได้ ส่วนต่างประเทศตลาดเป้าหมาย ที่มองว่ามีศักยภาพ คือในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน และ อินเดีย “

***ลดราคา50%ยังเหงา****
ล่าสุดโลว์ซีซั่นปีนี้ ผู้ประกอบการโรงแรม ในเชียงใหม่ ยังคงใช้โปรโมชั่นลดราคาเพื่อกระตุ้นตลาด ห้องพักเฉลี่ยลด 40-50% จากราคาปกติ พร้อมอาหารเช้า สามารถจองและเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ต.ค.ศกนี้ ซึ่งผลตอบรับก็ยังไม่ดีพอ เพราะขาดเงินทุนโปรโมต

ทางด้านนายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะเร่งหารือกับสมาคมโรงแรม เพื่อหาแนวทางให้คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวและใช้บริการโรงแรมได้มากขึ้น ซึ่งยอมรับว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในภาคเหนือช่วง ไตรมาสแรกที่ผ่านมาการเติบโตยังไม่หวือหวาเท่าภาคอื่นๆ คือเติบโตเพียง 5% และ โลว์ซีซั่นก็เงียบเหงา ดังนั้นในแผนงานปีงบประมาณ 2555 จะให้ความสำคัญเร่งหากิจกรรม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือให้มากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าพฤติกรรมตลาดคนไทยราคา ยังเป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจ และจากจำนวนโรงแรมใหม่ๆที่ทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง ทำให้ตลาดโอเวอร์ซัพพลาย สุดท้ายก็ต้องมาใช้กลยุทธ์ราคา เพื่อจูงใจ โดเฉพาะในฤดูโลว์ซีซั่น

***บิ๊ก”ดุสิตธานี”ชี้เหนือกิจกรรมอ่อน****
นายด้านนายชนินทร์ โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้บริหารโรงแรมกลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า ในส่วนของดุสิตธานี ซึ่งมีโรงแรม ในหลายเดสติเนชั่น ทั่วประเทศไทย ยอมรับว่า ในส่วนของภาคเหนือ ซึ่งมีดุสิต ดีทู เชียงใหม่ อัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 40% ต่างจากโรงแรมดุสิตที่ ภูเก็ต และ สมุย ซึ่งมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 60% เป็นเพราะเหนือเป็นภาคที่กิจกรรมอ่อนมากและไม่มีอะไรตื่นเต้น โดยเพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางไปภาคเหนือ มีการปรับเปลี่ยนเป็นไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้กันทดแทน เพราะ สินค้าทางการท่องเที่ยวสดและใหม่กว่า ในราคาไม่แตกต่าง

สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมของประเทศไทย ยังคงใช้ราคาเป็นกลุยุทธ์การขาย ซึ่ง ส่วนหนึ่ง เพราะไม่มีการควบคุมการเปิดโรงแรมใหม่ ไม่มีการจัดผังเมือง ซึ่งการตัดราคาทำง่าย เห็นผลเร็ว แต่ไม่ยั่งยืน จึงทำให้ราคาโรงแรมของไทย ถูกกว่าทุกประเทศในย่านเอเชีย สำหรับดุสิตธานี ปีนี้ คงต้องปรับขึ้นราคาห้องพักโรงแรมในประเทศบ้าง ซึ่งเดสติเนัช่นที่ปรับขึ้นราคาได้คงเป็นภูเก็ต และ สมุย จะปรับขึ้นประมาณ 10% ขณะที่เชียงใหม่ ยังไม่สามรรถปรับขึ้นราคาได้
กำลังโหลดความคิดเห็น