ไฮเนเก้น ชี้ตลาดเบียร์ 8 หมื่นล้านบาทคึกไตรมาสสอง เหตุกำลังซื้อของผู้บริโภคพุ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นเริ่มฟื้น อัดงบ 120 ล้านบาท ควงมิวสิก-สปอร์ต มาร์เก็ตติ้งรับตลาดขาขึ้น
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเบียร์มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโตแน่นอน โดยเฉพาะเซกเมนต์เบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9% ปีนี้คาดว่าเติบโต 5-6% ครั้งแรกในรอบ 2 ปีมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้น และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มดี สถานการณ์การเมืองในประเทศนิ่ง และจะมีการเลือกตั้งใหม่ หลังจากตลาดไม่เติบโตมาตั้งแต่ปี 2552-2553
ตลาดเบียร์ปีนี้จะเริ่มสู่ขาขึ้นในช่วงไตรมาสสอง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกตลาดเบียร์ไม่เติบโตมากนัก ล่าสุดบริษัทใช้งบ 120 ล้านบาท รุกตลาดเบียร์ระดับพรีเมียม ทั้งสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง งบ 60 ล้านบาท และมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง 60 ล้านบาท ประเดิมด้วยกลยุทธ์มิวสิค แพลตฟอร์ม ด้วยงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ”SHOOT THE MUSIC…WITH PEN-EK”โดยดึงผู้กำกับภาพยนตร์ไทย”เป็นเอก รัตนเรือง” มาร่วมเปิดโลกทัศน์ใหม่ประสบการณ์ทางดนตรี
โดยกลยุทธ์การสื่อสาร ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างความหลากหลายในการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านทางเฟซบุค ขณะที่งานดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 28 พฤษภาคม นี้ ที่ โรงแรมดุสิธานี หัวหิน คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 6,000 คน
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนเปิดตัวแคมเปญอย่างต่อเนื่องทั้งปี ทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะเปิดตัวอีก 1 กิจกรรมในช่วงปลายปีนี้ และสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดเบียร์ ซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรง และแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้าในทุกเซกเมนต์
นายปริญ กล่าวให้ความเห็นถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีเบียร์ตามปริมาณดีกรีว่า แนวคิดนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมานาน สำหรับบริษัทมองว่าภาครัฐจะจัดเก็บภาษีระบบไหนก็ตาม ทั้งตามปริมาณดีกรีหรือในเชิงมูลค่า แต่ขอให้มีความยุติธรรมกับผู้ประกอบการทุกฝ่าย โดยปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 85% จากมูลค่า 7,200 ล้านบาท
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเบียร์มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโตแน่นอน โดยเฉพาะเซกเมนต์เบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9% ปีนี้คาดว่าเติบโต 5-6% ครั้งแรกในรอบ 2 ปีมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้น และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มดี สถานการณ์การเมืองในประเทศนิ่ง และจะมีการเลือกตั้งใหม่ หลังจากตลาดไม่เติบโตมาตั้งแต่ปี 2552-2553
ตลาดเบียร์ปีนี้จะเริ่มสู่ขาขึ้นในช่วงไตรมาสสอง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกตลาดเบียร์ไม่เติบโตมากนัก ล่าสุดบริษัทใช้งบ 120 ล้านบาท รุกตลาดเบียร์ระดับพรีเมียม ทั้งสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง งบ 60 ล้านบาท และมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง 60 ล้านบาท ประเดิมด้วยกลยุทธ์มิวสิค แพลตฟอร์ม ด้วยงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ”SHOOT THE MUSIC…WITH PEN-EK”โดยดึงผู้กำกับภาพยนตร์ไทย”เป็นเอก รัตนเรือง” มาร่วมเปิดโลกทัศน์ใหม่ประสบการณ์ทางดนตรี
โดยกลยุทธ์การสื่อสาร ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างความหลากหลายในการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านทางเฟซบุค ขณะที่งานดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 28 พฤษภาคม นี้ ที่ โรงแรมดุสิธานี หัวหิน คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 6,000 คน
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนเปิดตัวแคมเปญอย่างต่อเนื่องทั้งปี ทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะเปิดตัวอีก 1 กิจกรรมในช่วงปลายปีนี้ และสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดเบียร์ ซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรง และแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้าในทุกเซกเมนต์
นายปริญ กล่าวให้ความเห็นถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีเบียร์ตามปริมาณดีกรีว่า แนวคิดนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมานาน สำหรับบริษัทมองว่าภาครัฐจะจัดเก็บภาษีระบบไหนก็ตาม ทั้งตามปริมาณดีกรีหรือในเชิงมูลค่า แต่ขอให้มีความยุติธรรมกับผู้ประกอบการทุกฝ่าย โดยปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 85% จากมูลค่า 7,200 ล้านบาท