ททท.สำนักงานโฮจิมินท์ ขยายฐานนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม เตรียมเจาะตลาด FIT กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาว รับอานิสงส์การคมนาคมทางบกและอากาศที่สะดวก ดันภาพรวมปี 54 โต 10% ขณะที่กลยุทธ์รวม 3 ตลาด เวียดนาม ลาว กัมพูชา ทยอยจัดแฟมทริป เชิญสื่อและบริษัทนำเที่ยว สำรวจพื้นที่ตลอดปี ยอมรับปัญหาไทยกัมพูชาอาจมีผลด้านจิตวิทยากระทบท่องเที่ยวบ้าง
นายพิชัย รักตะสิงห์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ ดูแลตลาดเวียดนาม กัมพูชา และลาว เปิดเผยว่า ปี 2554 ทางสำนักงานมีการปรับแผนการทำตลาดในประเทศเวียดนาม โดยจะเริ่มเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเที่ยวเอง (FIT) ให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพราะจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งให้ประชากรเวียดนามมีการศึกษาที่ดีขึ้น มีฐานะดีขึ้น 60% จากจำนวนประชากรทั้งหมด 86 ล้านคน เป็นวัยหนุ่มสาว ที่สามารถพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงสามารถเดินทางเองได้ อีกทั้งความคิด พฤติกรรมเริ่มปรับเปลี่ยน โดยไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อการทำงานเพียงอย่างเดียวแต่เริ่มมองเห็นความสำคัญของการเดินทางท่องเที่ยวคู่กับการใช้ชีวิต
สำหรับรูปแบบการดำเนินงาน ททท.จะไปร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ทำเป็นเรื่องราวท่องเที่ยวประเทศไทย นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวในแต่ละฤดูกาลของไทย เพื่อนำออกฉายผ่านสถานีโทรทัศน์ของเวียดนาม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดิน ม.ค.54 นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแฟมทริป เชิญบริษัทนำเที่ยวพร้อมสื่อมวลชน เดินทางมาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศไทย
ปี 2553 ตลาดเวียดนามเติบโต 10.5% ปีนี้ ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มอีก 5-10% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลไป เพราะปีนี้บรรยากาศทางการเมืองของประเทศไทยไม่น่าจะเป็นอุปสรรคเท่ากับปีก่อน ประกอบกับความสะดวกการเดินทางซึ่งชาวเวียดนามสามารถเดินทางมาไทยได้ทั้งเครื่องบิน มีกว่า 94 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ และทางรถยนต์ โดยเส้นทางถนนอาร์ 9 จากจังหวัดมุกดาหารของไทย เข้ากับแขวงสะหวันนะเขตของลาว และดานังของเวียดนาม
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของตลาดกัมพูชา เตรียมแผนโปรโมตท่องเที่ยวประเทศไทย ใน 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ, ท่องเที่ยวงานเทศกาล และงานมหกรรมการขายในไทย เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา นิยมเดินทางเที่ยวช่วงวันหยุดเทศกาล เช่น เทศกาลสงกรานต์ และ เทศกาลวันหยุดปลายปี โดย ททท.จะทำแผนโปรโมตเที่ยวประเทศไทยให้สอดคล้องกับวันหยุด
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้มีผลด้านจิตวิทยา จึงไม่สามารถตอบได้ว่าในปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาจะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มจากปีก่อนได้แค่ไหน แต่หากสามารถรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดกัมพูชาปีนี้ได้ 140,000 คน เท่ากับปีก่อนก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
สำหรับปี 2553 ตลาดกัมพูชาปีก่อนเติบโตจากปี 2552 ราว 46% ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาการเมืองไทยกัมพูชาไม่มีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของประชากรทั้งสามประเทศมากนัก ส่วนตลาดประเทศลาว จะจัดทำแฟมทริป 2 ครั้ง แต่ไม่ทำสารคดีท่องเที่ยว เพราะลาวสามารถฟังและชมสารคดีท่องเที่ยวจากประเทศไทยได้ ตั้งเป้าปี 54 นักท่องเที่ยวจากลาวมาไทย 650,000 คน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน
นายพิชัย รักตะสิงห์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ ดูแลตลาดเวียดนาม กัมพูชา และลาว เปิดเผยว่า ปี 2554 ทางสำนักงานมีการปรับแผนการทำตลาดในประเทศเวียดนาม โดยจะเริ่มเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเที่ยวเอง (FIT) ให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพราะจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งให้ประชากรเวียดนามมีการศึกษาที่ดีขึ้น มีฐานะดีขึ้น 60% จากจำนวนประชากรทั้งหมด 86 ล้านคน เป็นวัยหนุ่มสาว ที่สามารถพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงสามารถเดินทางเองได้ อีกทั้งความคิด พฤติกรรมเริ่มปรับเปลี่ยน โดยไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อการทำงานเพียงอย่างเดียวแต่เริ่มมองเห็นความสำคัญของการเดินทางท่องเที่ยวคู่กับการใช้ชีวิต
สำหรับรูปแบบการดำเนินงาน ททท.จะไปร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ทำเป็นเรื่องราวท่องเที่ยวประเทศไทย นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวในแต่ละฤดูกาลของไทย เพื่อนำออกฉายผ่านสถานีโทรทัศน์ของเวียดนาม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดิน ม.ค.54 นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแฟมทริป เชิญบริษัทนำเที่ยวพร้อมสื่อมวลชน เดินทางมาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศไทย
ปี 2553 ตลาดเวียดนามเติบโต 10.5% ปีนี้ ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มอีก 5-10% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลไป เพราะปีนี้บรรยากาศทางการเมืองของประเทศไทยไม่น่าจะเป็นอุปสรรคเท่ากับปีก่อน ประกอบกับความสะดวกการเดินทางซึ่งชาวเวียดนามสามารถเดินทางมาไทยได้ทั้งเครื่องบิน มีกว่า 94 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ และทางรถยนต์ โดยเส้นทางถนนอาร์ 9 จากจังหวัดมุกดาหารของไทย เข้ากับแขวงสะหวันนะเขตของลาว และดานังของเวียดนาม
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของตลาดกัมพูชา เตรียมแผนโปรโมตท่องเที่ยวประเทศไทย ใน 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ, ท่องเที่ยวงานเทศกาล และงานมหกรรมการขายในไทย เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา นิยมเดินทางเที่ยวช่วงวันหยุดเทศกาล เช่น เทศกาลสงกรานต์ และ เทศกาลวันหยุดปลายปี โดย ททท.จะทำแผนโปรโมตเที่ยวประเทศไทยให้สอดคล้องกับวันหยุด
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้มีผลด้านจิตวิทยา จึงไม่สามารถตอบได้ว่าในปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาจะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มจากปีก่อนได้แค่ไหน แต่หากสามารถรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดกัมพูชาปีนี้ได้ 140,000 คน เท่ากับปีก่อนก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
สำหรับปี 2553 ตลาดกัมพูชาปีก่อนเติบโตจากปี 2552 ราว 46% ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาการเมืองไทยกัมพูชาไม่มีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของประชากรทั้งสามประเทศมากนัก ส่วนตลาดประเทศลาว จะจัดทำแฟมทริป 2 ครั้ง แต่ไม่ทำสารคดีท่องเที่ยว เพราะลาวสามารถฟังและชมสารคดีท่องเที่ยวจากประเทศไทยได้ ตั้งเป้าปี 54 นักท่องเที่ยวจากลาวมาไทย 650,000 คน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน
