xs
xsm
sm
md
lg

คาดกำลังซื้อสะพัดเทศกาลตรุษจีน ค้าปลีกระดมทัพอัดแคมเปญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรุษจีนคึกคัก ค้าปลีกระดมทัพอัดแคมเปญ เดอะมอลล์ทุ่ม 50 ล้านบาท หวังโกย 3 พันล้านบาท ปลื้มปิดรายได้ปี 53 ที่ 40,000 ล้านบาท โต 5% ด้านโรบินสันทุ่ม 30 ล้าน เพิ่มวันจัด

นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปเอ็ม จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ปีที่ผ่านมา ทำได้ตามแผน คือ เติบโต 5% คิดเป็นมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท แม้ว่าจะต้องปิดให้บริการช่วงการชุมนุมไปกว่า 52 วัน แต่ก็สามารถผลักดันรายได้กลับคืนมาในช่วงเดือน พ.ย-ธ.ค ทียอดขายโตขึ้น 10%

***เดอะมอลล์ดึงพันธมิตรร่วม
ส่วนปีนี้หากไม่มีสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น จะเติบโตได้อีก 5% หรือมีมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พบว่า ยอดขายตั้งแต่เดือย พ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตต่อเดือนราว 10%

แผนการดำเนินงานปีนี้มุ่งเน้นเรื่องของบุคลากร ปรับปรุงปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมองค์กรให้ดียิ่งขึ้น สร้างทาร์เก็ตให้นิ่งขึ้น รวมถึงแผนการตลาดจะอยู่ภายใต้กลยุทธ์โทเทิลมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงปีนี้จะมุ่งหาพันธมิตรเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมโปรโมชันให้มากขึ้นจากที่ผ่านมาจะมีพันธมิตรเข้าร่วมในการจัดอีเวนต์เท่านั้น

ล่าสุด ได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จับมือกับพันธมิตร 2 ราย คือ เมืองไทยประกันชีวิต และฟอร์ด เข้าร่วมจัดแคมเปญ Golden Rabbit Chinese New Year Celebration ระหว่างวันที่ 20 ม.ค-13 ก.พ.โดยลูกค้าชอปปิ้งในห้างตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป รับอั่งเปาส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตร M การ์ด และอีก 13 บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ลุ้นรับคูปองชิงรถยนต์จากฟอร์ด มั่นใจว่าช่วงเทศกาลนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมช่วงตรุษจีนปีนี้ คาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดถึง 19,600 ล้านบาท โต 3.2% และเป็นเม็ดเงินของการซื้อของไหว้เจ้า 4,900 ล้านบาท โตขึ้น 4.3%

***โรบินสันกระตุ้นยอดบิล
นางสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสันจัด ไชนีส นิว เยียร์ 2010 ด้วยงบราว 30 ล้านบาท ระหว่าง 20 ม.ค.-14 ก.พ.2554 ภายใต้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง และปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตร คือ เอไอเอส และพรีม่าโกลด์

ในช่วงเทศกาลตรุษจีนคาดว่าการจับจ่ายจะเพิ่ม 15-20% ทำยอดขายกว่า 1,250 ล้านบาท จากปีกอ่น เพราะเพิ่มระยะเวลาการจัดรายการอีก 5 วัน เป็น 26 วัน จากที่ปีก่อนจัด 21 วัน และคาดว่าจะกระตุ้นยอดการจับจ่ายในปีนี้ให้เพิ่มเป็น 2,400 บาท จากเดิมอยู่ที่ 1,500 บาทต่อคนต่อครั้ง

สำหรับกำลังซื้อช่วงนี้ยังดีเติบโต 10% ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเชื่อว่าจนถึงไตรมาสแรกจะเติบโตได้มากกว่า 15% จากภาพรวมกำลังซื้อโดยเฉพาะจากสาขาในภูมิภาคที่เติบโต ได้ดี ตามราคาสินค้าเกษตร และจนถึงสิ้นปีเชื่อว่าจะรักษายอดการเติบโตไว้ได้ที่ 15%

แคมเปญพิเศษ เช่น ร่วมมอบอั่งเปาสุดพิเศษในรายการส่งเสริมการขายช้อปคุ้มถึง 4 ต่อ อาทิ รับอั่งเปาส่วนลด 200 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 800 บาท, รับอั่งเปาเพิ่มเป็น 800 บาท เมื่อช้อปผ่านบัตรโรบินสัน วีซ่า การ์ด ทุก 2,000 บาท พร้อมรับคูปองชิงโชคทองคำจากพรีม่าโกลด์ 1 ใบ และมอบส่วนลดสูงสุด 40% ใน 8 สาขาที่ร่วมรายการรวม 2 วัน และส่วนลดพร้อมเงินคืนสูงสุด 10% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

***ท็อปส์จัดยิ่งใหญ่
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า เนื่องด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคล เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ จึงจัดกิจกรรม “China’s Best @ Central Food Hall” อย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และพบกับกิจกรรม China’s Best @ Central Food Hall ได้ระหว่างวันที่ 26 มกราคม ถึง 6 กุมภาพันธ์ ณ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยกิจกรรมมากมาย

ในด้านรายการโปรโมชัน บริษัทมุ่งเน้นมอบสิทธิประโยชน์คืนคะแนนให้กับสมาชิกด้วย สปอต มันนี่ แบค สูงสุด 4 เท่า เมื่อซิ้อสินค้าครบ 350 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ ที่ ท็อปส์ ซูเปอร์ และ ครบ 450 บาทขึ้นไป ต่อใบเสร็จ ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ มาร์เก็ต จะได้รับสติ๊กเกอร์คำอวยพร 1 ดวง สะสมครบ 3 ดวง รับสปอต มันนี่ แบค 2 เท่า หรือ สะสมครบ 4 ดวง รับสปอต มันนี่ แบค 4 เท่า เพื่อเร่งสะสมคะแนนสปอต มันนี่ แบค ได้เร็วขึ้น เพื่อนำไปแลกเป็นคูปองเงินสด

นอกจากนั้น ยังจัดเตรียมทัพสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาลดสุดขีด Red Hot / สินค้าซื้อ 1 แถม 1 และสินค้าราคาพิเศษรวมกว่า 400 รายการ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าจากแคมเปญตรุษจีนนี้จะสามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้นอีก 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น