xs
xsm
sm
md
lg

แอลจีประกาศโค่นแชมป์มิตซู ขึ้นแท่นผู้นำตลาดแอร์ ลั่นสิ้นปีรายได้ทะลุ 2 หมื่น ลบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอลจีกร้าว เตรียมโค่นมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ขึ้นแท่นผู้นำแอร์ด้วยส่วนแบ่ง 22% ในสิ้นปีนี้ ส่ง inverter V4D ดันยอด ทุ่ม 150 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิต ลั่นสิ้นปี 54 รายได้รวมทะลุ 20,000 ล้าน โต 20%

นายชิน ฮัก (เจฟ) แช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งใหม่นี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ตั้งเป้าที่จะนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์แอลจีก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในอีกหลายๆ ตัว เช่น เครื่องปรับอากาศ แอลซีดีทีวี และโมบาย โฟน จากที่ผ่านมาแอลจีก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องซักผ้าและโฮมเธียเตอร์

โดยในส่วนของเครื่องปรับอากาศนั้น ภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 22% เช่นเดียวกับตัวเลขในเอเชีย ของทางเจเอฟเคที่สำรวจ พบว่า แอร์แอลจีเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเอเชีย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 21% รองลงมาคือ พานาโซนิค และไดกิ้น ตามลำดับ ขณะที่ในประเทศไทยในปี 2553 ที่ผ่านมา แอลจีอยู่ในอันดับสอง มีแชร์ 18% ตามหลังผู้นำ คือ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ที่เป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 21%

ทั้งนี้ ในภาพรวมรายได้ของแอลจีในปีที่ผ่านมาปิดที่ 1,800 ล้านบาท (ไม่รวมการส่งออก) เติบโต 20% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโตใกล้เคียงกันที่ 15-20% หรือราว 20,000 ล้านบาท

นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัททุ่มงบการตลาดกว่า 520 ล้านบาท ในการทำตลาดแอร์ ซึ่งใช้มากกว่าปีก่อนที่ 400 ล้านบาท โฟกัสการใช้ 400 ล้านบาท ในการทำตลาดผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ คือ รุ่นอินเวอร์เตอร์ V4D ด้วยเทคโนโลยีระบบการฟอกอากาศ 4 มิติ ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการทำตลาดแอร์ในปีนี้ มั่นใจว่า จะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยังได้ลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านบาท ในการเพิ่มกำลังการผลิตแอร์เป็น 2 ล้านเครื่องต่อปี จาก 1.5 ล้านเครื่องต่อปี ในปีก่อนที่ผ่านมา มุ่งเน้นขยายไลน์การผลิตแอร์ในกลุ่มอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก หรือในสิ้นปีนี้ คาดว่า แอลจีจะมีสัดส่วนการขายแอร์ในกลุ่มอินเวอร์เตอร์ที่ 20% จาก 12% ในปีก่อน หรือภายในสิ้นปีนี้ บริษัทจะต้องมียอดขายแอร์ที่3.5แสนเครื่อง โตขึ้น 32% ส่วนในแง่มูลค่า คาดว่า จะทำได้ 5,000 ล้านบาท จากปีก่อนปิดที่ 3,800 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมเครื่องปรับอากาศในปีก่อนปิดที่ 1.5 ล้านเครื่อง โตขึ้น 50% แง่มูลค่าอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มเป็น 1.6 ล้านเครื่อง มูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยในเรื่องของอากาศและสภาพเศรฐกิจ รวมถึงนโยบาย 9 ข้อของภาครัฐ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรกนั้น ถ้าแอร์ช่วยประหยัดไฟได้นโยบายดังกล่างถือเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดแอร์ในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น