สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ร้องรัฐช่วยแก้ปัญหาโรคลูกหมูตายก่อนกำหนด ที่กำลังระบาดหนักในภาคตะวันออก นครปฐม และราชบุรี ส่งผลปริมาณหมูไม่เพียงพอความต้องการ ขณะต้นทุนผู้เลี้ยงสูงขึ้น 30%
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออก เกษตรกรจังหวัดนครปฐม และราชบุรี กำลังประสบปัญหาโรค PRRS (โรคลูกหมูตายก่อนกำหนด) ระบาดในพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อลูกสุกร นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอากาศร้อนซึ่งทำให้สุกรเติบโตช้าและมีปริมาณเนื้อลดลงเป็นปัจจัยประกอบ จึงทำให้ปริมาณสุกรขุนที่จะออกสู่ตลาดในช่วงนี้ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค เนื่องจากสุกรเนื้อในตลาดลดลงแต่ปริมาณความต้องการบริโภคไม่ได้ลดลงด้วย ทำให้การผลิตและการบริโภคไม่สมดุล นอกจากนี้ ปัญหาโรคระบาดดังกล่าวไม่เพียงก่อความเสียหายกับลูกหมูเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรสูงขึ้นถึง 30% จึงต้องประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกษตรกรจึงอยากวอนขอให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโรคระบาดดังกล่าว อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอยปัญหาเดิม ที่เกษตรกรจำนวนมากประสบปัญหาโรคระบาดและปัญหาต้นทุนการผลิต ทั้งราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและวิกฤตราคาน้ำมันแพง ทำให้ผู้เลี้ยงบางส่วนทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหวต้องเลิกเลี้ยงสุกรไปในที่สุด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอีก ยิ่งจะทำให้ปริมาณสุกรในตลาดลดลง โดยจะกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากจำเป็นต้องบริโภคเนื้อสุกรในราคาสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหานี้ได้ จะไม่เพียงช่วยเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้บริโภคเนื้อสุกรในราคาที่เหมาะสม ซึ่งนับเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออก เกษตรกรจังหวัดนครปฐม และราชบุรี กำลังประสบปัญหาโรค PRRS (โรคลูกหมูตายก่อนกำหนด) ระบาดในพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อลูกสุกร นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอากาศร้อนซึ่งทำให้สุกรเติบโตช้าและมีปริมาณเนื้อลดลงเป็นปัจจัยประกอบ จึงทำให้ปริมาณสุกรขุนที่จะออกสู่ตลาดในช่วงนี้ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค เนื่องจากสุกรเนื้อในตลาดลดลงแต่ปริมาณความต้องการบริโภคไม่ได้ลดลงด้วย ทำให้การผลิตและการบริโภคไม่สมดุล นอกจากนี้ ปัญหาโรคระบาดดังกล่าวไม่เพียงก่อความเสียหายกับลูกหมูเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรสูงขึ้นถึง 30% จึงต้องประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกษตรกรจึงอยากวอนขอให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโรคระบาดดังกล่าว อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอยปัญหาเดิม ที่เกษตรกรจำนวนมากประสบปัญหาโรคระบาดและปัญหาต้นทุนการผลิต ทั้งราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและวิกฤตราคาน้ำมันแพง ทำให้ผู้เลี้ยงบางส่วนทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหวต้องเลิกเลี้ยงสุกรไปในที่สุด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอีก ยิ่งจะทำให้ปริมาณสุกรในตลาดลดลง โดยจะกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากจำเป็นต้องบริโภคเนื้อสุกรในราคาสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหานี้ได้ จะไม่เพียงช่วยเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้บริโภคเนื้อสุกรในราคาที่เหมาะสม ซึ่งนับเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด