ทอท.เร่งจ่ายชดเชยเสียงสุวรรณภูมิหลังผู้ถือหุ้นเห็นชอบ จำนวน 11,233 ล้านบาท คาด ก.พ.จ่ายอีก 100 กว่าหลังคาเรือน ยึดหลักเกณฑ์ตามมติครม.เมื่อ 10 พ.ย. 2552 ลุยจ่ายตามกรอบ ปี 2553 จำนวน 5,336.485 ล้านบาท
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2553 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 พ.ย. 2552 ทำให้ทอท.สามารถเดินหน้าการจ่ายชดเชยได้ตามเดิม ซึ่งในวันนี้ (1 ก.พ.) จะมีการประชุมร่วมกับแกนนำชาวบ้านถึงกรณีดังกล่าว โดยคาดว่าในเดือนก.พ. 2553 นี้จะจ่ายชดเชยเพิ่มได้อีกกว่า 100 หลังคาเรือน
“ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีคำสั่งศาลทำให้ต้องชะลอการจ่ายชดเชยแต่ ทอท.ได้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อม และเมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติแล้ว ขณะนี้ทอท.ได้เร่งรัดการชดเชยสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิทันที อย่างไรก็ตาม จะใช้เกณฑ์เดิมในการพิจารณาจ่าย
โดยบ้านเรือใดได้รับผลกระทบแล้วมีการสำรวจว่าได้รับผลกระทบจริงก็จะใช้หลักการปริมาณเดิม”นายสมชัย กล่าว
สำหรับ มติครม.เมื่อ วันที่ 17 มี.ค. 2552 อนุมัติกรอบวงเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 11,233 ล้านบาท กำหนดการจ่ายชดเชยในปี 2552 จำนวน 8,897.215 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 5,336.485 ล้านบาท ขณะนี้ทอท.ได้จ่ายชดเชยไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 819.642 ล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ชดเชยไปแล้ว 298.190ล้านบาทโดยเป็นการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 47 อาคาร วงเงิน 215.550 ล้านบาท ค่าชดเชยในการปรับปรุงอาคารเอง จำนวน 322 อาคาร วงเงิน 82.640 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบปานกลาง ชดเชยไปแล้ว 521.452 ล้านบาท โดยให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวงเงิน 214 ล้านบาท ให้สถานที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียงโดยจ่ายชดเชยเพื่อให้ปรับปรุงอาคารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอง จำนวน 12 แห่ง วงเงิน207.307 ล้านบาท และขอความร่วมมือหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดในการปรับปรุงอาคารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จำนวน 4 แห่ง วงเงิน 40.318 ล้านบาท และจ่ายให้อาคารที่พักอาศัย เพื่อให้ปรับปรุงอาคารเอง 242 อาคาร วงเงิน 59.825 ล้านบาท
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2553 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 พ.ย. 2552 ทำให้ทอท.สามารถเดินหน้าการจ่ายชดเชยได้ตามเดิม ซึ่งในวันนี้ (1 ก.พ.) จะมีการประชุมร่วมกับแกนนำชาวบ้านถึงกรณีดังกล่าว โดยคาดว่าในเดือนก.พ. 2553 นี้จะจ่ายชดเชยเพิ่มได้อีกกว่า 100 หลังคาเรือน
“ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีคำสั่งศาลทำให้ต้องชะลอการจ่ายชดเชยแต่ ทอท.ได้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อม และเมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติแล้ว ขณะนี้ทอท.ได้เร่งรัดการชดเชยสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิทันที อย่างไรก็ตาม จะใช้เกณฑ์เดิมในการพิจารณาจ่าย
โดยบ้านเรือใดได้รับผลกระทบแล้วมีการสำรวจว่าได้รับผลกระทบจริงก็จะใช้หลักการปริมาณเดิม”นายสมชัย กล่าว
สำหรับ มติครม.เมื่อ วันที่ 17 มี.ค. 2552 อนุมัติกรอบวงเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 11,233 ล้านบาท กำหนดการจ่ายชดเชยในปี 2552 จำนวน 8,897.215 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 5,336.485 ล้านบาท ขณะนี้ทอท.ได้จ่ายชดเชยไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 819.642 ล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ชดเชยไปแล้ว 298.190ล้านบาทโดยเป็นการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 47 อาคาร วงเงิน 215.550 ล้านบาท ค่าชดเชยในการปรับปรุงอาคารเอง จำนวน 322 อาคาร วงเงิน 82.640 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบปานกลาง ชดเชยไปแล้ว 521.452 ล้านบาท โดยให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวงเงิน 214 ล้านบาท ให้สถานที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียงโดยจ่ายชดเชยเพื่อให้ปรับปรุงอาคารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอง จำนวน 12 แห่ง วงเงิน207.307 ล้านบาท และขอความร่วมมือหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดในการปรับปรุงอาคารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จำนวน 4 แห่ง วงเงิน 40.318 ล้านบาท และจ่ายให้อาคารที่พักอาศัย เพื่อให้ปรับปรุงอาคารเอง 242 อาคาร วงเงิน 59.825 ล้านบาท
